วันศุกร์, เมษายน 19, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมสาวๆ แห่ร้อง ปคบ.โดนคลินิกเสริมความงามชื่อดังเท อ้างปิดปรับปรุง แต่เชื่อว่าปิดดำเนินการโดยไม่แจ้งลูกค้าล่วงหน้า คาดมูลค่าความเสียหายกว่า 5.3 ล้านบาท

Related Posts

สาวๆ แห่ร้อง ปคบ.โดนคลินิกเสริมความงามชื่อดังเท อ้างปิดปรับปรุง แต่เชื่อว่าปิดดำเนินการโดยไม่แจ้งลูกค้าล่วงหน้า คาดมูลค่าความเสียหายกว่า 5.3 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.หญิงสาวผู้เสียหายจำนวนกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ ทศพล มั่นศักดิ์ สว.(สอบสวน)กก.4 บก.บก.ปคบ.แจ้งความกรณีคลินิกชื่อดังมีสองสาขาที่ทองหล่อ และ สยามสเเคป ประกาศปิดปรับปรุง โดยไม่มีกำหนด จนลูกค้าสงสัยว่าน่าจะปิดกิจการถาวร เพราะไม่สามารถติดต่อทั้งเจ้าของพนักงาน หมอ ในทุกช่องทางการสื่อสารได้เลย

โดยสาขาสยามสเคป ชั้น 8 ปิดปรับปรุงชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.66 จนถึงเวลานี้ ส่วนสาขาทองหล่อประกาศปิดปรับปรุงมาตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค.ปลายปีที่ผ่านมาวันนี้จึงรวมตัวกันมาร้องต่อตำรวจ ปคบ. เพื่อติดตามเจ้าของคลีนิก ออกมาชี้แจงและรับผิดชอบความเสียหาย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายบางส่วนไว้ดำเนินการตรวจสอบพฤติการณ์คลีนิกแห่งนี้ พร้อมแนะนำให้ผู้เสียหายรายอื่นลงแจ้งความ thaipoliceonline.com อีกทางหนึ่งเพื่อความสะดวกในการดำเนินคดีกับคลีนิกแห่งนี้ตามกฎหมายต่อไป

ก่อนหน้านี้ต้นเดือน มี.ค.หญิงสาวกลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวเข้าแจ้งความ พงส.สน.ปทุมวัน และ สน.ทองหล่อ แล้วส่วนหนึ่งระบุว่า เอสเตลล่าคลีนิก ทำการ promoteคอร์สเสริมความงามและเติมวงเงินช่วงปี พ.ศ. 2563 ถึง 2565 เอสเตลล่าคลีนิก สาขาทองหล่อ ติดประกาศปิดปรับปรุงพื้นที่ให้บริการชั่วคราวตั้งแต่ 14 ธ.ค.65 โดยทางพนักงานของคลินิกฯ แจ้งให้ลูกค้าเข้าใช้บริการได้ที่สาขาสยามสเคปชั้น 8 หลังจากนั้นในช่วงเดือน ม.ค.66 ติดต่อคลินิกผ่านช่องทาง Facebook , Line และเบอร์โทร.ของทางคลินิก 02-0267199 ไม่ได้ จนกระทั่งวันที่ 20 ก.พ.66 ทางสาขาสยามสเคปชั้นแปด ได้ติดประกาศคลินิกว่าขอแจ้งปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเพื่อทำการปิดปรับปรุงระบบ

หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับทางร้านหรือพนักงานของคลินิกได้อีกเลย กลุ่มผู้เสียหายจึงเชื่อว่าได้ถูกหลอกลวงให้ซื้อคอร์สเสริมความงามทำให้ได้รับความเสียหายโดยประมาณ 600,000 บาท

น.ส.เปิ้ล พนักงานบริษัทเอกชน หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่าตนซื้อคอร์สกับคลีนิกแห่งนี้มาสองครั้งๆ แรกใช้ไปบางส่วน ก่อนพนักงานจะแนะนำให้ซื้อเพิ่มเติม เราหวังจะไปใช้บริการเสริมความงามต่างๆ ช่วงเดือน มค. ทางคลินิกไม่รับจองคิวแต่ให้walk in มาเอาคิวหน้าร้านเลย แต่เมื่อคลีนิกปิดแบบนี้ทำให้ขาดโอกาสที่จะไปใช้บริการ แต่ยังต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิตต่อจนหมดอีกหมื่นกว่าบาท

สำหรับกรณีคลีนิคเสริมความงามแห่งนี้ ปิดบริการ ทางสภาผู้บริโภค ได้ให้ความช่วยเหลือมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) ทำหนังสือถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท เอสเตลล่า คลินิค จำกัด เพื่อให้ชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงการเยียวยาความเสียหายให้ผู้บริโภคจำนวนมากที่ไม่สามารถใช้บริการกับคลินิกฯ ได้โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 5.3 ล้านบาท เนื่องจากคลินิกฯ ประกาศปิดปรับปรุงชั่วคราว โดยที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่แจ้งล่วงหน้าและยังไม่ชี้แจงข้อมูลใด ๆ ให้กับผู้ใช้บริการทราบ

ล่าสุดวานนี้ (17 มี.ค.) สภาผู้บริโภค ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นหลักฐานในการฟ้องคดีผู้บริโภคให้กับผู้เสียหายทุกราย ซึ่งมีระยะเวลาขั้นตอนในการเสนอฟ้องดี โดยจะดำเนินคดี 2 แบบ คือ คดีแพ่ง และคดีอาญา

1.กรณีที่เคยใช้บริการคอร์สมานานใช้ไปแล้ว จะฟ้องเป็นดคีแพ่ง

2.กรณีที่เพิ่งซื้อคอร์สก่อนปิดไม่กี่วันหรือดือนที่กำลังจะปิด อันนี้ต้องสอบข้อเท็จจริงว่าจะเข้าฉ้อโกงหรือไม่ และต้องดูที่เจตนา เช่น ผู้ประกอบการรู้ว่าจะปิดกิจการแต่ยังเสนอขายคอร์ส ซึ่งก็ต้องให้ทางเจ้าพนักงานคดี (ตำรวจ) สอบข้อเท็จจริงอีกครั้งจึงจะสรุปได้ว่าเป็นคดีอาญาได้หรือไม่

ดังนั้น หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทางผู้ร้องเรียนได้ทราบเป็นระยะ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts