เวลา 10.00 น. วันที่ 7 เม.ย.2566 ที่ศูนย์รับแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นักลงทุนแจ้งความตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบบริษัทถุงมือยางหลอกลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แต่นำบริษัทกลับเข้าตลาดไม่ได้พบมีการทุจริตและยักยอกทรัพย์รวมมูลค่ามากกว่า 500-600 ล้านบาท
นาย เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความพร้อมด้วยผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อร้องขอให้กองบังคับการปราบปรามตรวจสอบบริษัทถุงมือยางแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน มีพฤติการณ์หลอกลวงนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อหุ้นเพิ่มเพื่อนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับพบว่ามีพฤติการณ์หลอกผู้ลงทุนให้ซื้อหุ้นเพิ่มเรื่อยๆและสัญญาว่าจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ แต่กลับยืดเยื้อมานานหลายปี อีกทั้งยังมีพฤติการณ์การโยกย้ายเงินรายได้ของบริษัทไปยังบริษัทโดเมนีต่างๆจนบริษัทขาดทุน จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
ขณะที่นายสันติรักษ์ ลิ่มศิลา 46 ปี ผู้ถือหุ้น ผู้เสียหายรายหนึ่งเปิดเผยว่าได้ร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวตั้งแต่ปี 2557 โดยมีการซื้อหุ้นร่วมลงทุนไว้จำนวนหนึ่งโดยในช่วงแรกบริษัทดังกล่าวอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแต่ต่อมาถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนำชื่อออกจากตลาดหลักทรัพย์เนื่องจากพบว่ามีรายรับรายจ่ายและผลประกอบการไม่ตรงตามที่แจ้งกลับตลาดหลักทรัพย์ไว้โดยให้บริษัทดังกล่าวไปทำการปรับปรุงระบบการทำบัญชีรายรับรายจ่ายและเอกสารต่างๆให้เรียบร้อยและให้นำกลับมาให้ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาเพื่อกลับเข้าตลาดหลักทรัพย์ใหม่ แต่ปรากฏว่าหลังจากถูกขับออกจากตลาดหลักทรัพย์บริษัทก็ไม่สามารถนำบริษัทกลับเข้าตลาดได้ โดยอ้างเหตุผลผลว่า บริษัทขาดทุนไม่มีกำไร ส่วนเงินปันผลที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้นแต่ละคนกับจ่ายเงินปันผลให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากผลประกอบการ
นอกจากนี้ทีมทนายความและผู้เสียหายได้ตรวจสอบข้อมูลการทำบริษัทและสอบถามผู้บริหารผู้ถือหุ้น ทำให้ทราบว่ามีผู้บริหารจำนวน 8 คนร่วมกันทุจริตเงินของบริษัทโดยการตั้งนอมินีเข้ามาช้อนซื้อหุ้นของบริษัทเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าและยักยอกเงินรายได้ของบริษัทออกไป จนทำให้ขณะนี้ผู้เสียหายจำนวนมากได้รับความเสียหายจากการลงทุนดังกล่าวมีมูลค่ามากกว่า 500 ถึง 600 ล้านบาท
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเอกสารการจดทะเบียนบริษัทดังกล่าวพบว่ามีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 2544 โดยใช้เงินทุนจดทะเบียนประมาณ 815 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาตรวจสอบก่อนจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบว่าจะให้กองบังคับการใดรับคดีดังกล่าวไปตรวจสอบ
บริษัทถุงมือที่กำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยบริษัท 1 โดยพบว่ามีการตั้งนอมินีของบริษัทขึ้นหลายบริษัท เพื่อกินส่วนต่างๆ และมีการชักชวนผู้ลงทุนมาร่วมลงทุนในบริษัทดังกล่าวโดยมีผู้เสียหายหลายรายบางรายต้องสูญเสียเงินลงทุนนับร้อยล้านบาท
ผู้เสียหายถือหุ้น 10 ปี หลอกร่วมลงทุน อ้างจะมีกำไรจากช่วงโควิค 19 และจะนำลง ตลาดหลักทรัพย์ มีปันผลแต่จำนวนน้อย อ้างขาดทุนๆม่มีกำไร สงสัยมีทุจริตภายใน รอเข้าใหม่เข้ากระบวนการ 3 ปี มีประวัติ เชื่อมีปลอมแปลงเอกสาร เอาบ.นอมีนีช่อนซื้อ
57 ตอนแรกเข้าแต่โดนออก 61 แตกหุ้นเพิ่ม 24 ล้านหุ้น 20 คน มูลค่า 500-600 ล้านบาท 8 คน ผู้บริหาร