ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปอท. ปฏิบัติการ Knock Down แก๊ง Email Scam รวบ 4 ผู้ต้องหา ลวงโอนเงินความเสียหายกว่า 6 ล้านบาทตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้สั่งการให้ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการรับจ้างเปิดบัญชี ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญในการก่อคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและคดีอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา, พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์, พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ., พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์, พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย, พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ, พ.ต.อ.อธิป พงษ์ศิวาภัย, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.ทองศูนย์ อุ่นวงค์, พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี, พ.ต.อ.ศราวุฒิ บวรกิจประเสริฐ รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ ผกก.1 บก.ปอท., พ.ต.ท.ภัททสักก์ ธนสุกาญจน์, พ.ต.ท.ภานุภัทร กิตติพันธ์ รอง ผกก.1 บก.ปอท. และ ว่าที่ พ.ต.ต.หญิง เศวรัตน์ ปุริสาย สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ปอท. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตน้ำตาลซึ่งได้ทำการติดต่อซื้อขายกับบริษัทคู่ค้าจากฮ่องกงผ่านช่องทางอีเมลมาโดยตลอด ต่อมากลุ่มคนร้ายได้สร้างอีเมลปลอมที่มีลักษณะคล้ายกับอีเมลบริษัทคู่ค้า โดยได้ทำการได้เปลี่ยนแปลงบัญชีธนาคารอีกทั้งยังปลอมใบเสร็จเรียกเก็บเงินจากผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงิน มูลค่ามากกว่า 6 ล้านบาท ไปยัง “บัญชีม้า” ที่กลุ่มผู้ต้องหาจัดเตรียมไว้
จากการสืบสวนพบว่า นายลลิตฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ดำเนินการเปิดบัญชีม้าดังกล่าวโดยมี นางจุฑาทิพฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ทำหน้าที่จัดหาบัญชีธนาคารและว่าจ้างนายลลิตฯ ให้เปิดบัญชี อีกทั้งยังเป็นผู้พานายลลิตฯ ไปเบิกเงินสดจากธนาคาร หลังจากนั้นนางจุฑาทิพฯได้นำเงินไปใช้ส่วนตัว และแบ่งเงินบางส่วนให้กับนายลลิตฯ ส่วนเงินจำนวนที่เหลือ นางจุฑาทิพฯ ได้นำฝากเข้าบัญชีต่างๆ ให้กับผู้ร่วมขบวนการแก๊งชาวไนจีเรีย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับและหมายค้นต่อศาลอาญาเพื่อเข้าการตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย
ต่อมาวันที่ 17 ก.พ.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจค้นบ้าน และบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ จ.กรุงเทพ, จ.สมุทรปราการ และ จ.สมุทรสาคร รวม 4 จุด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 3 คน แจ้งข้อกล่าวหา จำนวน 1 คน ดังนี้
- นายลลิตฯ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1857/2564 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564
- นางจุฑาทิพฯ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1858/2564 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564
- นายลีวีนุสฯ อายุ 51 ปี สัญชาติไนจีเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1860/2564 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564
แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย คือ นางสาวรุ่งอรุณฯ อายุ 48 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
ผลการตรวจค้นพบของกลาง เป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 26 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 79 เล่ม, คอมพิวเตอร์ จำนวน 4 เครื่อง, เอกสารจดทะเบียนบริษัทและตรายาง จำนวน 4 รายการ และของกลางอื่นๆ รวม จำนวน 21 รายการ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและขยายผลดำเนินคดีผู้ร่วมขบวนการต่อไป
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า ในปัจจุบันมิจฉาชีพได้ใช้วิธีการการส่งอีเมลปลอม หรือ แฮกอีเมล โดยแจ้งว่าสินค้างวดต่อไปให้ชำระที่บัญชีใหม่ (บัญชีที่คนร้ายเตรียมไว้เพื่อหลอกลวงผู้เสียหาย) หากผู้เสียหายไม่ได้ตรวจสอบโดยละเอียดอาจหลงกลโอนชำระค่าสินค้า ไปยังบัญชีปลอม ดังนั้นเมื่อบริษัท หรือพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการเงินได้รับแจ้งทางอีเมลว่ามีการเปลี่ยนบัญชีการชำระค่าสินค้า ให้ทำการตรวจสอบรายละเอียด ดังนี้
- ตรวจสอบไปยังผู้เกี่ยวข้อง เช่น โทรศัพท์, วีดีโอคอล โดยสอบถามให้ชัดเจนว่ามีการเปลี่ยนบัญชี
หรือช่องทางชำระเงินจริงหรือไม่ - ตรวจสอบชื่อ Email Address โดยละเอียดทุกตัวอักษรทุกครั้ง ว่าตรงกับบัญชีอีเมลที่ต้องการติดต่อด้วยหรือไม่
- ตรวจสอบเนื้อหาของอีเมล ในส่วนนี้อาจจะพิจารณาตามเนื้อหา โดยเนื้อหาจะต้องไม่เป็นการพยายามล้วงเอาข้อมูลผู้ใช้งาน หรือมีลิงก์ให้กดเพื่อเข้าไปกรอกข้อมูล หรือยอมรับให้เชื่อมต่อกับบัญชีของเรา ทั้งนี้อาจจะพิจารณาไปถึงไฟล์ที่แนบมาในอีเมลด้วย หากพบไฟล์นามสกุลต้องสงสัย ให้งดการกดดาวน์โหลดหรือพรีวิวไปก่อน แล้วทำการตรวจสอบกับผู้ส่งให้แน่ใจว่าได้ส่งไฟล์ชนิดนั้นมาให้หรือไม่