เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 8 เมษายน นายสิรวิชฐ์ อำไพวงษ์ นายก อบต.บ่อวิน พร้อมด้วยนายเกษมสิทธิ์ หมื่นธนัทพงศ์ รองนายก นางกันยิกา เทพประโมง เลขานุการนายกอบต.บ่อวินพร้อมคณะลูกจ้าง ผู้นำชุมชน ร่วมขบวนแห่ ไหมโยน เพื่อนำไปทำพิธีที่วัดพันเสด็จในทำพิธี สืบเนื่องมาจากเขตพื้นที่ตำบลบ่อวินในอดีต มีหลายกลุ่มหลายชุมชน กระจัดกระจายในการประกอบอาชีพทางการเกษตร การทอผ้า การประกอบอาหาร และมีการติดต่อค้าขายกันโดยการนำผลผลิตที่แปรรูปทางการเกษตรเข้ามาเป็นสินค้า ก่อเกิดอาชีพในชุมชน หากแต่เหตุผลที่ต่างกันออกไปในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้แต่ละกลุ่มแต่ละชุมชน เกิดช่องว่างในการปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันของกลุ่มต่างๆ ในอดีต และประกอบกับมีบุคคลภายนอกเดินทางเข้ามาค้าขาย พักอาศัย และบางกลุ่มเข้ามาท่องเที่ยวอยู่ในเขตพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้คนในท้องถิ่นเกิดช่องว่างในการติดต่อสื่อสาร และสร้างความเข้าใจกันลดน้อยลง ผู้นำแต่ละกลุ่มในชุมชนในเขตพื้นที่ จึงได้ดำเนินการเพื่อให้คนในท้องถิ่น ชุมชนดั้งเดิม ยังคงสามารถติดต่อสื่อสารสร้างความรัก ความสามัคคี ความสัมพันธ์ที่ดีในท้องถิ่นคงไว้โดยประกอบพิธีที่เรียกว่า การเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ในชุมชนโดยการนำไหมที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงและนำมาแปรรูปมาใช้ใน พิธีกรรม โดยการให้ผู้สูงอายุ ผู้นำในชุมชน ที่มารวมตัวกันในการประกอบพิธีทางศาสนา และนำไหมที่ผ่านพิธีกรรม มาดำเนินการโยนขึ้นด้านบน และให้อีกฝ่ายเป็นคนรับ ไม่ให้ไหมตกถึงพื้น ซึ่งเป็นการสื่อความหมายได้ว่า การโยนไหมขึ้นด้านบน เพื่อเคารพต่อบรรพบุรุษ และทำให้ลูกหลานมีความก้าวหน้า ทำให้ชุมชนมีความสงบสุข การประกอบอาชีพมีความราบรื่น เกิดความอุดมสมบูรณ์ในปีนั้นๆ หากแต่ปีไหน ไหมตกพื้นไม่สามารถรับได้ ซึ่งอาจจะตีความหมายได้ว่า การประกอบอาชีพอาจมีปัญหาและอุปสรรค ต้องหาแนวทางแก้ไข หรือต้องทำบุญและดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในชุมชน จึงเป็นที่มาของ วัฒนธรรมประเพณีการโยนไหมของตำบลบ่อวิน และในปี พ.ศ. 2537 องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อวินได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเพณีวัฒนธรรมในชุมชน จึงคิดที่จะสืบสานประเพณีไว้เป็นมรดกของตำบลไว้ให้ลูกหลานได้ดูและสืบทอดต่อไป