วันเสาร์, พฤศจิกายน 9, 2024
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่ศรีฯ จี้ กฟผ.เปิดเผยสัญญาซื้อไฟฟ้า IPP และ SPP จากเอกชนทั้ง 67 โรง

Related Posts

ศรีฯ จี้ กฟผ.เปิดเผยสัญญาซื้อไฟฟ้า IPP และ SPP จากเอกชนทั้ง 67 โรง

วันที่ 25 เม.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า วันนี้สมาคมฯได้ทำหนังสือส่งไปถึงผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายข้อมูลข่าวสารในการขอสำเนาเอกสารหนังสือสัญญาที่ กฟผ.ซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าของเอกชน ซึ่งสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ค่าเอฟที (FT) พุ่งและทำให้ค่าไฟฟ้าโครตแพงนั้น ต้นเหตุมาจากการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนแพงเกินไปหรือไม่

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ได้เปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนสามารถผลิตไฟฟ้าขายให้กับ กฟผ.ได้ จึงทำให้มีบริษัทเอกชนจำนวนมากประมูลขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ.เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) ซึ่งมีสัญญาซื้อขายกันแล้ว 12 บริษัทรวม 17 โรงไฟฟ้า มีกำลังการผลิตตามสัญญารวม 17,023.50 เมกกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ที่มีสัญญาซื้อขายกันรวม 50 โรงไฟฟ้าทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ มีใช้ถ่านหินเพียง 4 โรงเท่านั้นมีกำลังการผลิตตามสัญญารวม 9,331.08 เมกกะวัตต์

ที่ผ่านมา กำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศมีมากกว่า 53,659 เมกกะวัตต์ ขณะที่ปริมาณการใช้สูงสุดเมื่อปี 2565 มีเพียง 33,177.3 เมกกะวัตต์เท่านั้น ทำให้มีปริมาณไฟฟ้าสำรองสูงมากกว่า 60% ทำให้มีเสียงครหาเกิดขึ้นอย่างมากว่าสัญญาที่ กฟผ.ไปทำไว้กับโรงไฟฟ้าเอกชนแต่ละรายนั้น มีเงื่อนไขที่เรียกว่า “ค่าพร้อมจ่าย” อยู่ด้วย เพราะแม้จะหยุดเดินเครื่องไม่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้ กฟผ.ก็ต้องจ่ายเงินให้เอกชนตามสัญญาตลอดไปจนหมดอายุสัญญา และเมื่อหมดอายุสัญญาแล้วจะมีการผูกมัดให้ต้องรัฐซื้อต่อหรือไม่ด้วย

ปัญหาที่ผ่านมา กฟผ.อ้างมาโดยตลอดว่ามีภาระหนี้กว่า 1 แสนล้านจากต้นทุนการผลิตที่ต้องซื้อก๊าซ LNG จากต่างประเทศมาผลิตไฟฟ้าในราคาสูง ซึ่งโรงไฟฟ้าของ กฟผ.ที่ต้องใช้ก๊าซมีถึง 11 โรง มีปริมาณการผลิตจำนวน 9,086 เมกกะวัตต์ ซึ่งเมื่อก๊าซมีราคาแพง ทำไม กฟผ.ยังต้องนำเข้าก๊าซจากต่างประเทศในราคาที่แพงมาผลิตอีก ทั้ง ๆ ที่มีโรงไฟฟ้าของเอกชนที่ทำสัญญาการผลิตป้อนให้ กฟผ.มีมากถึง 67 โรงอยู่แล้ว ส่วนเอกชนจะไปซื้อหาก๊าซมาผลิตไฟฟ้าจากไหนก็เป็นเรื่องของเอกชนที่ต้องรับภาระเอง ไม่ใช่ กฟผ.ต้องไปแบกรับภาระเสียเอง อีกทั้งโรงไฟฟ้าของเอกชนมีปริมาณการผลิตมากกว่าโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซของ กฟผ.เสียอีก หรือว่าการซื้อขายก๊าซดังกล่าวมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ด้วย

ทั้งนี้ หาก กฟผ.เปิดเผยสัญญาทั้งหมดที่มีการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชน ก็เชื่อว่าจะพบข้อพิรุธมากมายที่จะได้นำมาเปิดเผยให้ประชาชนเจ้าของประเทศได้รับทราบ และหาก กฟผ.ไม่ยอมเปิดเผยคลต้องสู้กันถึงศาลปกครองแน่นอน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts