วันอาทิตย์, กันยายน 22, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมจากนักร้อง “สู่นักการเมือง” รีดเงิน 3 ล้านบาท

Related Posts

จากนักร้อง “สู่นักการเมือง” รีดเงิน 3 ล้านบาท

“….เดิมทีผู้ขออนุญาตจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทั่วไปเพียงแค่ 500 บาท แต่ นายเอกพจน์ นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง กลับเรียกรับเงินผู้เสียหายลูกบาศก์เมตรละ 50 บาท จากดินที่จะใช้ถมจำนวน 60,000 ลูกบาศก์เมตร รวมเป็นเงิน 3,000,000 บาท ผู้เสียหายเกรงว่าหากไม่ทำตามข้อเรียกร้องจะส่งผลกระทบต่องานที่ทำ จึงยอมจ่ายให้ก่อนเป็นจำนวนเงิน 500,000 อีก 5 แสนบาท มาส่งมอบให้อีกครั้งที่ห้องทำงานสำนักงานเทศบาลคลองหลวง จนนำมาสู่การเข้าจับกุมขณะกำลังรับมอบเงินของกลางได้ดังกล่าว พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืน 1 กระบอก…”

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 พ.ค.2566 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป., พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย ผกก.2 บก.ปปป. และ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท. นำกำลังบุกเข้าจับกุมนายสถิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองคลองหลวง ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1

ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ได้ที่ภายในห้องทำงาน สำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมประสานเชิญตัว นายเอกพจน์ ปานแย้ม อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง มาแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดเดียวกันอีกด้วย

สืบเนื่องจากก่อนหน้ามีผู้เสียหายเข้าไปติดต่อขออนุญาตถมดินกับเทศบาลเมืองคลองหลวง ซึ่งตามระเบียบผู้ขออนุญาตจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทั่วไปเพียงแค่ 500 บาท แต่นายเอกพจน์กลับมีการเรียกรับเงินจากผู้เสียหายถึงลูกบาศก์เมตรละ 50 บาท จากดินที่จะใช้ถม จำนวน 60,000 ลูกบาศก์เมตร รวมเป็นเงิน 3,000,000 บาท ผู้เสียหายเกรงว่า หากไม่ยินยอมก็จะส่งผลเสียต่องาน จึงมอบเงินให้ไปก่อน 5 แสนบาท โดยมีนายสถิต ผอ.กองช่าง เป็นคนรับเงิน ส่วนที่เหลือก็จะจ่ายภายหลัง จากนั้นจึงเข้ามาร้องเรียน

ต่อมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ หลังทราบเรื่อง จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริงจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตจริง ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ติดต่อให้ผู้เสียหายนำเงินที่เหลืออีก 5 แสนบาท มาส่งมอบให้ในวันนี้ที่สำนักงานเทศบาลคลองหลวง

จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และเข้าจับกุมขณะกำลังรับมอบเงินของกลาง พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืนได้อีก 1 กระบอก เบื้องต้นสอบสวนนายสถิต ยังคงให้การปฏิเสธ จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนตัวนายเอกพจน์นั้น ปรากฏว่าเจ้าตัวไม่อยู่ ทราบว่าไปเฝ้าภรรยาซึ่งคลอดลูกอยู่ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ จึงประสานติดต่อให้มาเข้าพบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดเดียวกันด้วย

ต่อมาเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน นายเอกพจน์ ปานแย้ม อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง (อดีตนักร้องชื่อดัง) เดินทางมาที่สำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวง เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. และ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป. เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” จากคดีเดียวกัน

สำหรับประวัติของ เอกพจน์ วงศ์นาค นักร้องลูกทุ่ง มีชื่อจริงว่า เอกพจน์ ปานแย้ม เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2512 ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ออกเดินสายร้องเพลงลูกทุ่งไปตามที่ต่าง ๆ พร้อมกับเรียนการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ไปด้วย โดยเพลงที่ได้รับความนิยมและสร้างชื่อให้แก่เอกพจน์ คือ เพลง ทหารเกณฑ์คนจน

ในปลายปี พ.ศ. 2539 เอกพจน์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานีบ้านเกิด และได้รับการเลือกตั้ง โดยชนะทั้งนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ และ นางวาณี หาญสวัสดิ์ ส.ส.เก่าเจ้าของพื้นที่ยาวนาน ซึ่งทำให้เอกพจน์ได้กลายมาเป็นนักร้องลูกทุ่งคนแรกที่ได้เป็น ส.ส.

จากนั้น เอกพจน์ได้ศึกษาต่อจนจบในระดับปริญญาตรีที่สถาบันราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และศึกษาต่อในระดับปริญญาโทรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2544 ได้ลงสมัครในพื้นที่เดิม สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งอีก ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 ได้ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทย ซึ่งก็ได้รับการเลือกตั้งอีก และในการเลือกตั้งในปลายปี พ.ศ. 2550 ได้ลงเลือกตั้งอีกครั้งเป็นครั้งที่ 4 ใน จ.ปทุมธานี สังกัดพรรคชาติไทย และได้รับเลือกตั้งอีก

ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551 เมื่อพ้นจากการถูกตัดสิทธิทางเมือง จึงลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เดิม สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2557 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

จากนั้นเอกพจน์ได้หันมาทำงานการเมืองท้องถิ่น โดยเขาเป็นหัวหน้าทีม “เพื่อนเอกพจน์” และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และได้รับเลือกตั้ง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts