วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
หน้าแรกการเมือง“เป็นนักข่าวเจาะ” ที่ยอดเยี่ยม “เป็นนักการเมือง” ที่เยี่ยมยอด วัชระ เพชรทอง “ทองแท้”

Related Posts

“เป็นนักข่าวเจาะ” ที่ยอดเยี่ยม “เป็นนักการเมือง” ที่เยี่ยมยอด วัชระ เพชรทอง “ทองแท้”

“…หากพูดถึงเรื่องข่าว สังคมไทยมักจะคุ้นเคยกับข่าวการเมือง   ข่าวการศึกษา  ข่าวต่างประเทศ  ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง และข่าวอาชญากรรม แต่ในวงการข่าวมักจะรู้ว่ามีข่าวอีกประเภทหนึ่ง เราเรียกกันว่า “ข่าวเจาะ”  ที่หาคนทำได้ยากยิ่ง แม้นักข่าวจำนวนมากมายที่เรียนมาโดยตรง หลายคนก็ทำไม่ได้ หรือบางครั้งอยากจะทำก็ทำไม่ได้ เพราะต้องให้ความทุ่มเท ทั้งกายและใจและแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยที่เป็นเงินเป็นทอง  นอกจากรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ที่เก็บไว้เงียบๆ คนเดียว ไม่เด่น ไม่ดังอะไร บางครั้งการทำข่าวอาจจะเสี่ยงชีวิต เสี่ยงต่อการถูกทำร้าย เสี่ยงต่อความสูญเสียเพื่อนมิตรสหายของแหล่งข่าวอีกด้วย…”

สู้ทำข่าวการเมืองไม่ได้ ได้รู้จักนักการเมือง รัฐมนตรี หรือข่าวบันเทิงก็รู้จักดารา สนิทสนมกับดารา หรือข่าวอาชญากรรมก็สนิทสนมกับตำรวจ เรียกตำรวจชั้นนายพลเอก นายพลโทว่าพี่ โทรหาเมื่อไรก็ได้ เท่จะตายไป

ข่าวเจาะคือบทบาทของสื่อมวลชนที่จะต้องต่อสู้กับอำนาจมืด อิทธิพลเถื่อน การทุจริต การคอรัปชั่น สื่อนับว่าเป็นกลไกที่มีบทบาทในการต่อต้านทุจริตมากที่สุด เนื่องจากสื่อมีความสามารถในการขุดคุ้ยข้อมูล เจาะข้อเท็จจริงและเชื่อมโยงความผิดปกติต่างๆ ให้สาธารณะได้รับทราบ ทั่วโลกเรียกว่า Investigate Journalism หรือ ที่บ้านเราเรียกว่า “ข่าวเจาะ”

สื่อลักษณะนี้มีอุดมการณ์ รายงานข่าวที่ไม่มีใครกล้ารายงาน หรือไม่มีใครอยากรายงาน เพราะหวาดกลัวอิทธิพลของผู้มีอำนาจที่ไม่สามารถทนรับความจริงที่ถูกเปิดเผยได้

การ “แฉข้อมูล” หรือข้อเท็จจริง นับเป็นจุดเด่นของการทำงานข่าวในลักษณะ “เจาะลึก” ซึ่งโมเดลของคนทำสื่อ แบบ Investigative Journalism นั้น ได้รับอิทธิพลจาก Philippines Center Investigative Journalism หรือ PCIJ สำนักข่าวอิสระของฟิลิปปินส์ที่กลายเป็น “ต้นแบบ” การทำข่าวเจาะของสื่อหลายประเทศ

สำหรับประเทศไทย สำนักข่าวหรือผู้ผลิตข่าวในลักษณะนี้มีอยู่ไม่มากนัก  ส่วนใหญ่ข่าวที่ถูกเจาะออกมาเปิดเผยจะเป็นเรื่องการร่ำรวยผิดปกติ เป็นเรื่องของนักการเมืองและข้าราชการที่ร่ำรวยผิดปกติ  การจัดจัดซื้อจัดจ้าง และ การตรวจสอบการทำงานของท้องถิ่น

นายวัชระ เพชรทอง เป็นนักการเมือง ที่ทำงานเหมือนนักข่าวเจาะโดยไม่รู้ตัว หลายเรื่องราวที่นายวัชระ นำเสนอผ่านสื่อมวลชน เป็นข่าวเจาะโดยที่นายวัชระอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังทำข่าวเจาะอยู่ เพียงแค่หัวโขนที่สวมอยู่คือนักการเมือง อดีต  ส.ส.เท่านั้น ไม่ใช่นักข่าวสังกัดสำนักข่าวใดๆ แต่คุณภาพ คุณค่าของงานที่ออกมานั้นคือข่าวคุณภาพที่หาได้ยากยิ่งนักสำหรับนักข่าวในยุคนี้

หากย้อนอดีตอดีตในห้วงเวลาที่ผ่านมา เราจะเห็นเรื่องราวที่ นายวัชระ นำข่าวมาให้สื่อมวลชนเสนอข่าวอยู่บ่อยๆ เกือบทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน ในเรื่องการใช้อำนาจมืดอิทธิพลเถื่อน การบังคับใช้กฏหมายของตำรวจที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นทำ การร่ำรวยผิดปกติ เป็นเรื่องของนักการเมืองและข้าราชการที่ร่ำรวยผิดปกติ  การจัดซื้อจัดจ้าง และประเด็นข่าวอาชญากรรมแบบเจาะลึกชนิดที่นักข่าวทำไม่ได้เลยก็มี

อาธิ คดีฆาตรกรรมอำพราง เอกยุทธ อัญชันบุตร เจ้าของเว็บไซต์ ไทยอินไซเดอร์ หลังจากได้เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้าน “กระแต” ย่านสะพานควาย ในคืนวันที่ 6 มิ.ย.56 จากนั้นก็ออกมาขึ้นรถตู้โฟล์ก สีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับคนขับรถ จากนั้นก็ไม่มีใครพบเขาอีก จนกระทั่งพบร่างไร้ลมหายใจที่ ป่า ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง คดีนี้นับเป็นคดีใหญ่และเป็นที่สนใจของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะผู้ตายถือเป็นผู้มีหน้ามีตาในสังคม และ มีบทบาททางการเมือง

วันนั้นนายวัชระบุกเข้าไปในคุกที่ จ.พังงา เพื่อคุยกับนายบอล มือสังหาร ได้รู้เรื่องราวมากมาย นำไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูล สาเหตุการเสียชีวิตอีกทางหนึ่ง นอกจากคำแถลงหรือคำบอกเล่าจากฝ่ายตำรวจฝ่ายเดียว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแถลงข่าวด้วยความระมัดระวัง เพราะข้อมูลที่สื่อมวลชนมีข้อมูลอยู่ในมือมากพอสมควร หากไม่จริงจะถูกค้าน ถูกวิเคราะห์ไปอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่จะฟังจากคำแถลงของตำรวจอย่างเดียว บทบาทอย่างนี้ คุณวัชระ ได้ทำหน้าที่นักข่าวเจาะแล้ว เพียงแต่ไม่ได้นำเสนอข่าวเอง แต่นำข้อมูลหรือพาสื่อมวลชนไปพบข้อเท็จด้วยตนเอง

อีกเหตุหนึ่งการฆาตกรรมอำพรางนักการเมืองท้องถิ่น ที่จ.ภาคใต้ หลังออกจากงานเลี้ยงแล้ว รถประสพอุบัติเหตุตกถนน เสียชีวิต แต่นายวัชระได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุด้วยตนเอง วิเคราะห์สภาพศพที่เห็น มองว่าน่าจะเป็นฆาตกรรมอำพราง เพราะศพไม่ได้อยู่ในรถ แต่อยู่ห่างจากรถไกลพอสมควร ทำไมคนตายจึงต้องกระเสือกกระสนมาตายในที่เปลี่ยว หนำซ้ำร่องรอยบาดแผลที่อยู่บนตัวศพ ไม่น่าจะมาจากการเกิดอุบัติเหตุ น่าจะมาจากการซ้อมทรมาน จึงนำเรื่องราวเหล่านี้เสนอผ่านสื่อมวลชน พร้อมทำเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ให้เรื่องเงียบหายไปเฉยๆ เหมือนการเกิดอุบัติเหตุแล้วตายทั่วๆ ไป ทำให้พนักงานสอบสวนต้องกลับมาเริ่มต้นทำคดีเรื่องนี้กันอีกครั้ง

อีกเรื่องราวของข่าวที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร หลายท่านคงจำได้ กรณีการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่เป็นธรรม กรณีการประมูลซื้อรถเมล์ ขสมก. 3 พันกว่าล้านบาท รถเมล์ 4 ร้อยกว่าคัน ในยุค คสช. ที่การจัดซื้อจัดจ้างทำไม่ถูกกฏหมาย มติบอร์ดประชุมไม่เห็นด้วย มีการคัดค้าน  แต่มีการจัดซื้อจัดจ้างไปตามปกติ นายวัชระกล้านำเรื่องราวเหล่านี้มาเปิดเผย จนนำไปสู่การฟ้องร้อง และ ขสมก.แพ้ ต้องเสียค่าปรับไปพันกว่าล้านบาท เป็นปมที่รอเปิดต่อไปอีกว่า คนที่ทำเรื่องอย่างนี้สมควรที่จะต้องถูกดำเนินคดี ต้องติดคุก แต่รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในยุคนั้น แกล้งไม่รู้ไม่เห็น ไม่ดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ คงปล่อยให้เวลาผ่านไป เพื่อให้สังคมไทยลืมเลือนเรื่องนี้ไปเอง

พอมาถึงเรื่องราวของกลุ่มทุนจีนสีเทาเข้ามายึดประเทศไทยหากิน ทำธุรกิจผิดกฏหมาย การพนันออนไลน์ พร้อมร่วมมือกับตำรวจหลายระดับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือนายตู้ห่าวนั่นเอง

นายวัชระ เพชรทอง คนนี้นี่แหละที่มีภาพ นักการเมืองอดีตนายทหารคนดัง  พล.ต.อ.อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในปัจจุบัน และนายตำรวจใหญ่น้อย มากหน้าหลายตา เดินล้อมหล้าล้อมหลัง แสดงความยินดีด้วยการมอบช่อดอกไม้ให้นายตู้ห่าว เป็นปมปริศนาจนถึงวันนี้ว่า นายพลตำรวจเหล่านี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายตู้ห่าวขนาดไหน ซึ่งนายวัชระ ได้นำภาพเหล่านี้ให้สื่อมวลชน และ พล.ต.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยยื่นผ่านทางศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ไปแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็เงียบ ไม่ได้มีการเรียกตัวนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว ที่ปรากฏในภาพมาสอบแต่อย่างใด คงปล่อยให้เรื่องราวเหล่านี้เงียบไป ให้สังคมไทยตื่นเต้นกับเรื่องใหม่ และลืมเรื่องเก่าๆ ไป หมักหมมซุกไว้ใต้พรมอีก 1 เรื่องต่อไป

ข่าวโด่งดังอีกเรื่องที่ นายวัชระ เพชรทอง ขุดคุยอย่างต่อเนื่องคือ การก่อสร้างรัฐสภาที่ล่าช้า และไม่ตรงทีโออาร์หรือไม่ตรงสเปกในสัญญา เหมือนการก่อสร้างหยาบๆ ฝนตกทีไรน้ำท่วม หลังคารั่ว ไฟดับ เหมือนไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งเจาะลึกว่าน่าจะมีการขายสัญญาการก่อสร้างให้บริษัทอื่นมาทำแทน ทั้งที่ในสัญญาระบุไว้เป็นข้อห้าม เท่ากับว่าได้งานมาแล้วกินหัวคิวเฉยๆ เท่านั้น อีกทั้งวัสดุหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไม้ ตามสัญญาระบุเป็นไม้แบบหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงใช้ไม้อีกแบบหนึ่ง  ทำให้ภาครัฐเกิดความสียหาย แต่ไม่มีการดำเนินการอะไร เพราะบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นของเครือญาติของนักการเมืองดัง เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง มีตำแหน่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรี

นายวัชระ พยายามเปิดเผย เจาะลึกเรื่องราวเหล่านี้ออกมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง แต่น่าแปลกใจที่ ส.ส.และวุฒิสภา ที่ประชุมกันอยู่ที่นั่นตลอดเวลา กลับไม่สำนึก ไม่สำเหนียกว่ามีความผิดปกติ  น่าจะช่วยกันตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อหาข้อเท็จจริงให้ถึงที่สุด แต่กลับไม่มีใครทำอะไรเลย แถมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกลับพยายามช่วยกันปกปิดข้อมูลเหล่านี้เสียเองอีกด้วย

ยังมีอีกหลายเรื่องราวของข่าวสาร ประเภทข่าวเจาะ ที่ นายวัชระ เพชรทอง ขุดคุ้ยเจาะลึกออกมาเผยแพร่ ทั้งที่ทำสำเร็จไปแล้ว และยังต้องทำต่อไปแม้จะเป็นเพียงอดีต ส.ส. จึงได้แต่หวังว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ชาวบางแค ชาวหนองแขม จะสละคะแนนเสียงของตนเอง เพื่อส่งให้คุณวัชระ เพ็ชรทอง ได้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ส. เปิดโครงการปราบคนโกง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีอำนาจหน้าที่ตามกฏหมาย เพื่อช่วยสังคมให้คนดีอยู่ได้ คนโกงต้องหมดไป หรือน้อยลงด้วยเถอะ

ขนาด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยังต้องให้ฉายาว่า นายวัชระ เพชรทอง คือทองแท้ๆ ของการเมืองไทย

ของนักการเมืองไทย คนหนองแขม คนบางแค น่าจะภูมิใจนะครับ ว่ามีคนอย่างนี้อยู่ในพื้นที่ท่าน เป็นคนของท่าน พร้อมจะเป็นปากเป็นเสียงให้ท่าน อยู่เคียงบ่าเคียงใหล่ กับท่าน ในยามเดือดร้อน ..14 พ.ค. นี้..ขอให้ช่วย นายวัชระ เพชรทอง เป็นทองแท้ๆ เป็น ส.ส.ด้วยครับ

#สืบจากข่าว : รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts