เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 พ.ค. ที่ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถนนรัชดาภิเษก นายกฤษฎา อินทามระ ในฐานะทนายความอาสาช่วยเหลือทางคดี พร้อมพนักงาน และ อดีตพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำนวนกว่า 100 คน เดินทางมาเป็นกำลังใจให้เพื่อนพนักงานฯ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาถูก ดีเอสไอ ส่งอัยการจำนวนทั้ง 34 คน
นายกฤษฎา เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 34 คนเปรียบเสมือนเพื่อนร่วมต่อสู้คดีล่วงเวลาที่ศาลแรงงานกลางกับพวกที่เหลืออีกนับพันคนแต่พวกที่เหลือไม่ตกเป็นผู้ต้องข้อหาด้วย พวกเราจึงไม่ทิ้งกันโดยเฉพาะขณะนี้พวกที่รอดข้อกล่าวหาของ ดีเอสไอ จำนวนกว่า 100 คน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 130 คน ไว้ที่ บก.ปปป. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 บัญญัติว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” แล้ว ดังนั้นในวันนี้ตนพร้อมด้วยพนักงานฯ ผู้เสียหาย จึงต้องให้ความสำคัญในคดีพิเศษที่ 4/2557 ของ ดีเอสไอ ซึ่งผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้อง 130 คน ได้ก่อขึ้นเพื่อต้องการกลั่นแกล้งให้พนักงานนับพันคนต้องแพ้คดีแรงงานและอาจติดคุกในคดีพิเศษนี้ด้วย วันนี้พวกเราจึงเดินทางมาที่สำนักงานงานอัยการคดีพิเศษ เพื่อให้กำลังใจแก่เพื่อนทั้ง 34 คน ในการต่อสู้คดีพิเศษของผู้บริหารเพื่อธำรงค์ไว้ซึ่งความยุติธรรมและให้เกิดประโยชน์แก่รูปทั้ง 34 คน และพวกเราขอย้ำจุดยืนว่าจะต้องปิดสวิตซ์คดีพิเศษที่ 4/2557 ให้ได้โดยเร็วเพราะเชื่อว่าพนักงานนับพันคนที่ถูกกล่าวหามานานเกือบสิบปีเป็นผู้บริสุทธิ์
นายกฤษฎา แถลงเพิ่มเติมว่าอัยการเจ้าของสำนวนเลื่อนนัดฟังคำสั่งในวันนี้ ไปเป็นวันที่ 28 มิ.ย.66 เวลา 10.00 น.เนื่องจากกำลังพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาที่ยื่นไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.66