วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่ปอศ.รวบกรรมการบริษัท หลอกลงทุนซื้อขายน้ำมัน พบผู้เสียหาย 65 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 27 ล้านบาท

Related Posts

ปอศ.รวบกรรมการบริษัท หลอกลงทุนซื้อขายน้ำมัน พบผู้เสียหาย 65 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 27 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์, พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปอศ.

ร่วมกันจับกุม นายธัชเศรษฐ์ฯ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1236/2566 ลง 10 พ.ค.66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถ ไปรษณีย์ไทย สาขารางโพธิ์ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2565 ผู้เสียหายกับพวกได้ถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนค้าน้ำมันกับบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมีนายธัชเศรษฐ์ฯ เป็นกรรมการบริษัทและนายภูมิฯ เป็นประธานกรรมการ ในการซื้อขายน้ำมันจากประเทศรัสเซีย ผ่านช่องทางแอปพลิเคชันไลน์กลุ่ม ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มประมาณ 1,000 คน  โดยการชักชวนให้ลงทุนซื้อหุ้นที่จะให้ผลตอบแทนเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยผู้ที่สนใจสามารถโอนเงินลงทุนไปยังบัญชีของบริษัทฯ และหากผู้ลงทุนชักชวนบุคคลอื่นให้ร่วมลงทุนด้วย จะได้รับผลตอบแทนจากการชักชวนจำนวน 10% จากเงินที่บุคคลอื่นลงทุน  ผู้เสียหายกับพวกเห็นว่าบริษัทดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนด้วย แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ได้มีการแจ้งผ่านไลน์กลุ่มว่าบริษัทมีปัญหาการซื้อขายน้ำมันกับประเทศรัสเซีย  และไม่สามารถติดต่อประธานบริษัทได้ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายทราบว่าน่าจะถูกหลอกลวง จึงรวมตัวกันกว่า 65 ราย ร้องทุกข์ผ่านระบบออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ก่อนจะมีการมอบหมายให้ กก.4 บก.ปอศ. รับผิดชอบทำการสืบสวน สอบสวนคดีดังกล่าว

เบื้องต้น พบมูลค่าความเสียหายกว่า 27 ล้านบาทต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวน พร้อมทั้งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดี ขณะที่นายภูมิฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับอีกราย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายธัชเศรษฐ์ฯ ผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ทราบเรื่อง และไม่เกี่ยวข้องใดๆ โดยอ้างว่า ตัวเองเป็นพนักงานที่ร้านของของแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ซึ่งมีนายภูมิฯ เป็นเจ้าของต่อมานายภูมิฯ อ้างว่าบริษัทจะล้มละลาย จึงมาขอให้ตนเป็นตัวแทนช่วยเปิดบริษัทค้าน้ำมันให้ แต่ในส่วนการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเงิน หรือกำไร ปันผลต่างๆ นายภูมิฯเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การแต่อย่างใด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts