เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่รัฐสภา กลุ่มประชาชน 3 กลุ่ม เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ ส.ว. ในการทำหน้าที่ เพื่อปกป้องชาติและสถาบัน ประกอบด้วย กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ที่นำโดยนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส. กลุ่มเสื้อหลากสีที่นำโดย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ หรือหมอตุลย์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และกลุ่มกองทัพธรรม นำโดย นายใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)
กลุ่มมวลชนได้ส่งตัวแทนมอบดอกไม้ให้กับ ส.ว. โดยตัวแทนจากกองทัพธรรมได้อ่านแถลงการณ์ ที่มีใจความว่า ขอบคุณสมาชิกวุฒิสภาที่ได้ช่วยกันทำงานอย่างเข้มแข็ง โดยไม่หวั่นเกรงต่อการกดดัน ข่มขู่ คุกคาม แม้จะรู้อยู่แล้วว่าจะทำให้ตนเองและครอบครัวเกิดความเดือดร้อนในภายหลังก็ตาม จากการที่ส.ว.ไม่โหวตให้กับนักการเมืองที่มีความมุ่งมั่นกระทำการในสิ่งที่อาจเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ไม่ให้ขึ้นมาเป็นผู้นำชาติ การไม่ยอมให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ย่อมเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ควรแก่การบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
ตัวแทนจากพุทธะอิสระ กล่าวว่า ขอสนับสนุนแนวทางอันแน่วแน่และกล้าหาญของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ออกมาทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทย สกัดขัดขวางและไม่สนับสนุนบุคคลหรือกลุ่มบุคคล และพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์และแนวทางในการกัดเซาะบอลทำลายและยกเลิก หรือลดโทษผู้กระทำความผิดมาตรา 112 อันนำมาซึ่งกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ส.ว.ได้ทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทย จะธำรงรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักและเทิดทูนของคนไทยทั้งชาติ และขอให้ ส.ว.ทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งอุดมการณ์
ขณะที่นายอานนท์ กล่าวขอให้กำลังใจ ส.ว.ยกเว้น ส.ว. 13 คนที่โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ปฏิญาณตนไว้ และสมกับที่ประชาชนลงมติเมื่อปี 2560 และขอประนามส.ว. 13 คนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันชัดเจน ปฎิบัติตนไม่สนกับที่ปฏิญาณตนไว้ ทำให้เสื่อมทั้งเกียรติและศักดิ์ศรีของ ส.ว.
ด้านกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน กล่าวว่า ในการโหวตนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา วุฒิสมาชิกส่วนใหญ่ได้ใช้ วิจารณญาณ และความกล้าหาญ และทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามรัฐธรรมนูญ ที่ลงมติไม่เห็นชอบหรืองดออกเสียงจนนายพิธา ไม่ได้รับการเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี ขอชื่นชมและขอให้ทำหน้าที่นี้อย่างถึงที่สุด เหตุผลหลักคือนายพิธาได้แสดงออกว่าจะแก้ไข มาตรา 112 หรือแม้จะมีการเสนอผู้อื่นเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น แต่ก็ยังมีพรรคก้าวไกลเป็นหนึ่งในพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็เป็นไปได้ว่าจะมีความพยายามแก้มาตรา 112 ในที่สุด
จากนั้นนายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า ส.ว.มีกำลังใจมากขึ้น แม้จะเผชิญกับการคุกคามเยอะมาก แต่ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ในการดูแลปกป้องประเทศชาติให้สุดทาง โดยเฉพาะชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยืนยันจะทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ขอบคุณที่เห็นว่าพวกเราทำหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ ส.ว.ทุกคนจะทำหน้าที่ด้วยความกล้าหาญต่อไป
ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอบคุณที่มอบดอกไม้มาเป็นกำลังใจ วันนี้การแสดงความคิดเห็นของแต่ละคนแต่ละภาคส่วนในวันนี้ เป็นภาพสะท้อนให้เห็นได้ว่าคนในประเทศไทย หรือประชาชนทั้งหลายไม่ได้มีแนวคิด ไม่ได้มีสิ่งที่ต้องการ ที่ไปในแนวทางที่จะทำให้เกิดผลกระทบกับสถาบันแสดงให้เห็นถึงกลุ่มคนทั้งหลายทั่วประเทศ ว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังต้องการปกป้องสถาบัน ซึ่งพวกเราในฐานะสมาชิกวุฒิสภาก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และเชื่อว่าในช่วงระยะ ใกล้จะหมดวาระของวุฒิสภา เราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน และเพื่อความมั่นคงของชาติเป็นหลักสำคัญ
ขณะที่พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ส.ว. กล่าวว่าขณะนี้ไม่ใช่เรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ยกระดับเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และตราบใดที่มีการคุกคามความมั่นคง เชื่อว่าวุฒิสภาพร้อมที่จะปกป้อง
ด้านคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. กล่าวว่าแผ่นดินไทย เป็นอยู่เพราะพระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรม และทรงรักษาธรรม จึงทำให้ชาติปลอดภัย ไม่ว่าวิกฤติครั้งใดต้องผ่านได้ อยากโกรธหรือเกลียดคนที่คิดต่าง
ส่วนนายถวิล เปลี่ยนศรี ส.ว.กล่าวย้ำจะไม่ยอมให้รัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีที่มีแนวคิดเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง มีนโยบายสุดโต่ง ล่อแหลม เราคงให้ความเห็นชอบไม่ได้
