วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และสรส.องค์การสุรา ร้องผู้ตรวจฯ ช่วยตรวจสอบกรณีสุราสามทับ ทำรัฐสูญรายได้ 700 ล้าน ขณะแกนนำถูกผู้บริหารเรียกพบ เตรียมนัดเคลื่อนไหวต่อ 25 ก.ค.นี้

Related Posts

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และสรส.องค์การสุรา ร้องผู้ตรวจฯ ช่วยตรวจสอบกรณีสุราสามทับ ทำรัฐสูญรายได้ 700 ล้าน ขณะแกนนำถูกผู้บริหารเรียกพบ เตรียมนัดเคลื่อนไหวต่อ 25 ก.ค.นี้

ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ วันนี้ ( 20 ก.ค.) สมาชิกสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และคณะ ประมาณ 40 คน นำโดยนายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) นายภรภัทร สุขเจริญ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การสุรา และนายสาวิทย์ แก้วหวาน ที่ปรึกษา สรส. ร่วมกันเป็นตัวแทนยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีกรมสรรพสามิตออกระเบียบและกฎหมายเกี่ยวกับสุราสามทับ ที่อาจขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 โดยนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน เป็นผู้มารับหนังสือ

ตัวแทน สรส. ระบุว่า ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบการกระทำที่เข้าข่ายการกระทำทุจริตเชิงนโยบายของเจ้าหน้าที่รัฐในกรมสรรพสามิต ที่ออกประกาศกรมสรรพสามิตเอื้อประโยชน์ให้เอกชนและทำให้รัฐเสียหายโดยมิชอบองค์การสุราฯ เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นกลไกของรัฐบาลในการจัดบริการสาธารณะผลิตและจำหน่ายสุราสามทับ (เอทิลแอลกอฮอล์) และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องเพื่อบริการประชาชนและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประชาชน โดยกำลังถูกคุกคามอย่างหนักจากภาคเอกชนที่มีกระบวนการแทรกแซงนำสุราสามทับ เพื่อการส่งออกกลับเข้ามาจำหน่ายในประเทศแทนองค์การสุราฯ และยังได้รับสิทธิเสียภาษีในอัตราศูนย์จากกรมสรพสามิตมาเป็นระยะเวลาหลายปี โดยผ่านประกาศกรมสรรพสามิต เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีและเงื่อนไขการขอใช้สิทธิเสียภาษีในอัตราศูนย์สำหรับสุราสามทับที่ นำไปใช้ในการอุตสาหกรรม ลงวันที่26 กรกฎาคม 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่อาจขัดแย้งกับพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ที่นำไปสู่การเปิดช่องให้บริษัทเอกชนสามารถจำหน่ายสุราสามทับ ภายใต้ชื่อว่า “วัตถุเจือปนอาหาร” ได้อย่างเสรีโดยไม่เสียภาษี ทั้งที่จริงแล้ว เป็นเพียงการเปลี่ยนชื่อบนฉลากสินค้าจากสุราสามทับเป็นวัตถุเจือปนอาหารเท่านั้น แต่สินค้าดังกล่าวนั้นก็ยังคงอยู่ในรูปของสุราสามทับหรือเอทิลแอลกอฮอล์ที่มีแรงแอลกอฮอล์มากกว่า 80 ดีกรี ซึ่งมี

คุณสมบัติเป็นสินค้าในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตที่ต้องเสียภาษี และบริษัทเอกชนไม่มีสิทธิจำหน่ายในประเทศ
สำหรับกรณีนี้ทางสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การสุรา (สร.สร.) ได้ร่วมกันตรวจสอบเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2564 มีการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมสรรพสามิต เพื่อร้องเรียนปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้ยื่นเรื่องถึงคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การสุราฯ และผู้อำนวยการองค์การสุรา ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลกิจการของรัฐวิสาหกิจ และมีความรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติหน้าที่ต่อกระทรวงการคลัง ในฐานะที่เป็นผู้เสียหายโดยตรงจากปัญหาดังกล่าว ที่องค์การสุราฯ ไม่อาจประกอบกิจการของรัฐได้อย่างปกติจนทำให้รัฐวิสาหกิจประสบกับภาวะการขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้รับทราบผลการพิจารณาข้อเท็จจริงดังกล่าว และยังไม่พบการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ดังนั้น สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) พร้อมด้วยองค์กรสมาชิก สรส. และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การสุรา จึงมายื่นหนังสือต่อตรวจการแผ่นดินได้ตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่ายการทุจริตเชิงนโยบายเกี่ยวกับการออกประกาศของกรมสรรพสามิตที่เอื้อประโยชน์ให้เอกชนและตรวจสอบพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำการเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบที่ทำให้รัฐเสียหายและรัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี เพื่อมีให้เกิดการใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบ รวมถึงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และอีกหลายหน่วยงาน แต่ปรากฏว่ายังไม่มีคำตอบผลการรับเรื่อง ในขณะที่แกนนำ สรส.ถูกผู้บริหารเรียกตัวไปเข้าพบและตรวจสอบ สำหรับการเคลื่อนไหวของ สรส.ในกรณีดังกล่าวจะได้นัดรวมตัวกันในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้เวลา 10.00 น. ที่กรมสรรพสามิต เพื่อขอคำตอบและสอบถามรายละเอียดจากรณีดังกล่าวต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts