วันนี้ (4 ส.ค.66) เวลา 10.00 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้เดินทางมายื่นหนังสือเร่งรัดให้ผู้ว่าฯชัชชาติ ตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาไต่สวน สอบสวน เอาผิดเจ้าหน้าที่ กทม.ทั้งหมดที่มีส่วนในการออกใบรับแจ้งหรือหนังสืออนุญาตให้ก่อสร้างอาคารแอชตัน อโศก ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเป็นที่สุดแล้วว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ การออกใบรับหนังสือแจ้งเกี่ยวกับอนุญาตก่อสร้างฯอาคารคอนโดแอชตัน อโศกมีถึง 4 ฉบับตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2560 เมื่อศาลได้พิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ย่อมจะต้องมีผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำหรือการใช้อำนาจดังกล่าว จะปล่อยให้เลยตามเลยหรือนิ่งเฉยต่อกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวมิได้ เพราะจะเกิดผลเสียต่อการบริหารราชการของกรุงเทพมหานครในอนาคต
ดังนั้นสมาคมฯจึงต้องมาร้องเรียนต่อท่านผู้ว่าฯ กทม, เพื่อขอให้ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร 2528 มาตรา 49(3) โดยแต่งตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญและหรือผู้ทรงคุณวุฒิที่หลากหลายซึ่งควรที่จะประกอบด้วยบุคคลากรภายในและภายนอก กทม. ขึ้นมาชุดหนึ่งตามที่เห็นควร เพื่อพิจารณาไต่สวน สอบสวน และลงโทษ พนักงานเจ้าหน้าที่ของ กทม.ทั้งหมดที่ออกใบรับหนังสือแจ้งเกี่ยวกับอนุญาตก่อสร้างฯ ทั้ง 4 ฉบับดังกล่าว โดยต้องกำหนดวันเวลาการสิ้นสุดการสอบสวนเอาผิดที่ชัดเจน
นอกจากนั้น กรณีที่เกิดขึ้นทราบว่า กทม.ได้ออกหนังสือแจ้งให้เจ้าของคอนโดฯดังกล่าวเร่งดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแปลนให้ถูกต้อง โดยจะต้องมีการจัดซื้อจัดหาที่ดินจากเอกชนเพื่อใช้เป็นทางเข้า-ออกคอนโดให้ได้โดยเร็ว โดยต้องกำหนดระยะเวลาที่ให้บริษัทดังกล่าวปฏิบัติที่ชัดเจน ตาม ม.41 แห่ง พรบ.ควบคุมอาคาร 2522 และหลังจากนั้นขอให้ออกคำสั่งห้ามมิให้บุคคลใดใช้หรือเข้าไปในส่วนใด ๆ ของอาคารพิพาท หรือบริเวณคอนโดดังกล่าว และจัดให้มีเครื่องหมายแสดงการห้ามนั้นไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ บริเวณอาคารพิพาทดังกล่าว ตามมาตรา 40(2)ด้วย และหากผู้ประกอบการจัดซื้อจัดหาที่ดินเป็นทางเข้า-ออกไม่ได้ก็ต้องสั่งให้มีการรื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 ของกฎหมายดังกล่าวต่อไปด้วย
สุดท้าย ทราบข่าวว่าผู้ประกอบการมีข้อเสนอมายัง กทม.เพื่อเสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรณีพิพาทดังกล่าว โดยผ่านสำนักการโยธา กทม.ไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ไปยังคณะรัฐมนตรีนั้น สมาคมฯขอคัดค้าน เพราะจะถือได้ว่าเป็นการยืมมือ กทม.หรือภาครัฐในการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจเอกชนโดยตรง เป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ แต่ถ้าไม่เชื่อฟังกันก็อาจต้องนำความไปร้อง ป.ป.ช.หรือศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด