วันนี้ (15 ส.ค.66) เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา เกียกกาย นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์การรักชาติ รักแผ่นดิน และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ผู้นำกลุ่มรวมใจรักชาติกับพวก ได้เดินทางมายื่นคำร้องถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน รอง ปธ.สภาผู้แทนฯคนที่ 2 มารับคำร้อง เพื่อให้ตรวจสอบอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยและบริษัทเอกชนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีพฤติการณ์ฮั้วโครงการฯของรัฐมูลค่า 4,316 ล้าน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากกระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการจัดหาระบบวิทยุสื่อสารข่ายบังคับบัญชา หรือ โครงการ Digital Trunked Radio ในปี 2564-2567 โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทยคนก่อนเป็นผู้รับผิดชอบโครงการฯ ซึ่งได้มีการลงนามเซ็นต์สัญญากับเอกชนผู้ประมูลงานได้ไปแล้ว เมื่อปลายเดือนกันยายน 2564 ก่อนที่ปลัดคนดังกล่าวจะเกษียณอายุราชการเพียงไม่กี่วัน
จากการตรวจสอบกระบวนการจัดประมูลงานดังกล่าวพบว่ามีข้อพิรุธมากมาย จนแทบไม่น่าเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบจากกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ รวมทั้งผ่านสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาได้อย่างไร เนื่องจากขั้นตอนการจัดประมูลมีช่องโหว่มากมาย อาทิ 1.มีการตั้งกรรมการทีโออาร์ที่เป็นพวกพ้อง และเป็นคนของบริษัทนอมินีให้เข้าไปร่วมจัดทำทีโออาร์ 2.นำบริษัทที่ไม่มีคุณสมบัติในการเข้าประมูลงาน มาจัดฮั้วทำราคากลางสูงเกินจริง มีการล็อกสเปกอุปกรณ์ทั้งหมดให้กับวิทยุสื่อสารยี่ห้อหนึ่งเข้าได้เพียงรายเดียว และร่วมมือกันกำหนดราคาอุปกรณ์วิทยุแบบพกพา อุปกรณ์เครื่องลูกข่าย และอุปกรณ์โครงข่าย มีราคาสูงเกินจริง
นอกจากนั้น ยังมีการล็อกสเปกอุปกรณ์โครงข่าย ล็อกสเปกอุปกรณ์วิทยุ และเครื่องลูกข่าย มีผลให้จำเป็นต้องใช้ยี่ห้อเดิมตลอดไปหากมีการขยายโครงข่าย และต้องซื้อกับตัวแทนขายเพียงรายเดี่ยวเท่านั้นคือบริษัทนอมีนีของตนที่เป็นบริษัทมหาชน โดยการกำหนดทีโออาร์ล็อกสเปก วางแผนให้บริษัทนอมีนีเป็นผู้ชนะงานประมูล หลังจากนั้นนำงานที่ได้ไปให้บริษัทนอมินีที่เป็นบริษัทมหาชน เข้ารับช่วงงานต่อมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท อีกทั้งบริษัทที่ส่งเอกสารจัดทำราคากลาง บริษัทที่ยื่นประกวดราคา ในโครงการฯ มีผลประโยชน์ร่วมกัน และรับจ้างช่วงงานต่อจากบริษัทมหาชนดังกล่าวอีกด้วย
ด้วยเหตุดังกล่าวองค์การรักชาติ รักแผ่นดิน และกลุ่มรวมใจรักชาติ ไม่อาจปล่อยให้เรื่องดังกล่าวผ่านไปได้ จึงจะนำความมาร้องเรียนต่อประธานสภาผู้แทนฯในวันนี้เพื่อสั่งการให้คณะกรรมาธิการสภาฯที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบตามครรลองของกฎหมาย และส่งต่อไปยังหน่วยงานที่ลงโทษ เพื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด