“…ชวน หลักภัย เผยในส่วนของตนได้ชี้แจงในที่ประชุมพรรคตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคมแล้วว่า ขออนุญาตโหวตไม่เห็นชอบ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเราต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยมาตลอด 3-4 สมัย ที่น่าตลกคนในกลุ่มนี้บางคนขู่ผมว่า หากใครไม่ทำตามมติพรรคต้องเอาออก แต่ตนขออนุญาตที่ประชุมพรรคฯ แล้วว่า จะขอไม่โหวตให้ และพรรคฯ ก็ได้มีมติงดออกเสียง แต่วันนี้สิ่งนี้กลับย้อนไปที่ตัวเขาเองด้วยการขัดมติพรรคเสียเอง…”
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโหวตนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดโตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นนายกรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่มีการแหกมติพรรคที่ให้งดออกเสียงนั้น ก่อนที่จะมีการโหวต แกนนำกลุ่ม คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และรักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรค ฯได้หารือกับแกนนำพรรคเพื่อไทย คือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าเสียงหนุนนายเศรษฐายังก้ำกึ่ง พวกตนพร้อมจะโหวตเติมให้ แต่ต้องได้ร่วมรัฐบาล ดังนั้น ทางกลุ่มที่โหวตสวนมติพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จึงไม่ได้ลงมติขณะขานชื่อ แต่กลับนั่งรวมตัวกันข้างนอกห้องประชุม
เมื่อทราบว่า ผลการโหวตเสียงเกิน 374 เสียง ที่โหวตให้นายเศรษฐาขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เสียงสนับสนุนทั้งสองสภา 482 เสียง ก็ได้มีการพูดคุยกันกับแกนนำพรรคเพื่อไทยว่าจะยังโหวตเห็นชอบ โดยขอเป็นอะไหล่ ในกรณีที่พรรคภูมิใจไทยต้องการเจรจาต่อรองขอกระทรวงเกรดเอจากพรรคเพื่อไทย หากพรรคภูมิใจไทยไม่ได้และถอนตัว 71 เสียงออกไป ก็จะเหลือ 411 เสียง หากบวกกับทางกลุ่มของตนซึ่งมี 16 เสียงก็จะได้ 427 เสียง เสริมความแข็งแกร่งของรัฐบาลได้โดยไม่ต้องพึ่งพรรคภูมิใจไทย โดยทางกลุ่มของพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมเสียบทันที จนเป็นที่มาของการโหวตสวนมติพรรคฯ ที่ให้งดออกเสียง
ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวภายหลังการประชุมรัฐสภา ว่า ไม่น่าเชื่อว่า สส.ของพรรคจะโหวตออกมาอย่างนี้ ในส่วนของตนได้ชี้แจงในที่ประชุมพรรคตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคมแล้วว่า ขออนุญาตโหวตไม่เห็นชอบ เพราะเราต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยมาตลอด 3-4 สมัย โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่เขากลั่นแกล้งตัดงบประมาณ การพัฒนาพื้นที่ จนต้องทำหนังสือหลายฉบับถึง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกฯ ให้จัดงบมาทดแทนเพื่อชดเชยสิ่งที่เราขาดไป
การโหวตวันนี้ของผม มิใช่การขัดต่อมติพรรคเเต่อย่างใด แต่เป็นการย้ำจุดยืน ไม่ทรยศคนใต้ เนื่องด้วยพฤติการณ์ในอดีตของรัฐบาลยุคนายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ มีการเลือกปฏิบัติต่อภาคใต้ ละเมิดหลักนิติธรรม รวมถึงการรณรงค์หาเสียงของพรรคเรา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ก็หยิบยกประเด็นนี้มาพูดจนคนใต้ไม่เลือกพรรคการเมืองของคนกลุ่มนี้ตลอดมา แต่ที่น่าตลก เพราะคนในกลุ่มนี้บางคนขู่ผมไว้ว่า ตอนที่เขาจะไปร่วมว่าต้องทำตามมติพรรค หากใครไม่ทำตามมติพรรคต้องเอาออก วันนี้ผมไม่ได้ทำผิดมติพรรคแต่อย่างใด เพราะขออนุญาตที่ประชุมพรรคฯ แล้วว่า จะขอไม่โหวตให้ และพรรคฯ ก็ได้มีมติงดออกเสียง แต่วันนี้สิ่งนี้กลับย้อนไปที่ตัวเขาเองด้วยการขัดมติพรรคเสียเอง นายชวน กล่าว
#สืบจากข่าว รายงาน
