วันที่ 26 ส.ค.66 ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงระหว่างบ้านอูบมุง – บ้านบุ่งซวย ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ภายใต้แผนยุทธการ สกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและการกระทำผิดเกี่ยวกับความมั่นคงตามแนวชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี(หลักชัย 66) โดยนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี
ชุดปฏิบัติการนำโดย ร้อยเอก ศิริพงศ์ แก่นสิงห์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพราน ที่ 2302 ร.ต.อภิศักดิ์ ไชยน้ำอ้อม ผบ.หมวดลาดตระเวนระยะไกล ที่ 1 กองกำลังสุระนารี
นายชัยวัฒน์ วงศางาม ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดอุบลราชธานี นายหมวดเอก วุฒิไกร สีสันต์ ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดอุบลราชธานีที่ 1 นายจักรี พันธุ์สุวรรณ์ ปลัดอำเภอเขมราฐ พ.ต.ท.ญาณพล แพงจันทร์ สว.ขว.กก.ตชด.22 นำกำลังเข้าตรวจสอบและยึดรถยนต์จำนวน 2 คัน รถไถเทรคเตอร์ จำนวน 2 คัน และเรือจำนวน 4 ลำซึ่งถูกมัดรวมเป็นแพขนานยนต์ ขณะกำลังลำเลียงรถยนต์ข้ามแม่น้ำโขง ชุดปฏิบัติการตามแผนยุทธการหลักชัย 66 สืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำรถยนต์ออกนอกประเทศ โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณบ้านอูบมุง – บ้านบุ่งซวย ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี จึงวางแผนนำกำลังเข้าซุ่มสกัดริมฝั่งแม่น้ำโขง จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น. ได้ยินเสียงเรือกีบแล่นในแม่น้ำโขง มาจอดเทียบฝั่งบริเวณป่ารกทึบ จากนั้นไม่นานพบกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันนำรถยนต์ 1 คันลงไปยังริมตลิ่งแม่น้ำโขงโดยใช้เชือกผูกที่กันชนท้าย ผูกติดกับรถไถแทรกเตอร์ค่อยๆ ปล่อยให้รถไหลลงไปยังตลิ่ง จากนั้นขับลงไปบนเรือกีบ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กลุ่มคนทั้งหมด ได้กระโดดลงน้ำโขงอาศัย
ความมืดหลบหนีไป ขณะเข้าตรวจสอบพบเรือกีบเพลายาว 4 ลำ มีแผ่นไม้พาดกลางระหว่างลำทำเป็นแพขนานยนต์พบรถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน รถไถเทรกเตอร์ ฟอร์ดจำนวน 1 คัน รถไถแทร็กเตอร์คูโบต้า จำนวน 1 คัน ตรวจสอบเอกสารในรถยนต์โตโยต้าวีโก้ พบเอกสารผู้ถือกรรมสิทธิ์ ชื่อ นางมะลิวรรณ สายบัวลี ชาวจังหวัดบึงกาฬและพบรถยนต์อีซูซุ สีเหลืองจำนวน 1 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภายในรถพบเอกสารระบุ ชื่อนางสุดสวาท แซ่ลี้ ชาวจังหวัดสกลนคร
ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มขบวนการลักลอบซื้อขายรถจะลอบนำรถยนต์ออกนอกประเทศ โดยการนำลงเรือกีบข้ามแม่น้ำโขง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบได้เสียก่อน จึงได้ทำการตรวจยึดและนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขมราฐ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป