วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมพลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับ 2 คดีด้วยกัน

Related Posts

พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับ 2 คดีด้วยกัน

โดยคดีแรกตำรวจ บก.ปอท. ร่วมกับ สำนักงานอัยการสูงสุด และ ปปง. เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 30 จุด ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร , สมุทรปราการ ชลบุรี และอุดรธานี ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (ไฮบริดสแกม) ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่ายที่มีหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึงคนควบคุมบัญชีม้า , คนรับจ้างเปิดบัญชีม้า และคนที่ดูแลเรื่องฟอกเงิน ตามหมายจับ 14 คน จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 คน ในจำนวนนั้นเป็นชาวจีน 2 คน และคนไทย 7 คน ซึ่งมีนางสาวจักรีณา หรือ กี้กี้ แม็กซิม นางแบบสาวเซ็กซี่ด้วย

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายได้ถูกกลุ่มคนร้ายใช้ Facebook ปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดีเข้ามาพูดคุยตีสนิท จนผู้เสียหายไว้เนื้อเชื่อใจ แล้วชักชวนให้ร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล อ่านเว็บไซต์ชื่อ CBOEX ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่กลุ่มคนร้ายปลอมขึ้นมาทั้งหมด ทำให้มีลักษณะคล้ายกับแอปพลิเคชันดั้งเดิมที่ใช้ชื่อ CBOE ซึ่งปัจจุบันได้ปิดไปแล้ว

โดยคนร้ายจะแนะนำให้ผู้เสียหายสมัครเปิดบัญชีกับแพลตฟอร์มเทรดสกุลเงินดิจิทัลของไทยเพื่อสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล ไปซื้อเหรียญดิจิทัลสกุลเงิน USDT ผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว จากนั้นคนร้ายก็หลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเหรียญดิจิทัลเข้าไปยังกระเป๋าเหรียญดิจิทัลของคนร้าย มีการแจ้งยอดผลกำไรจากการลงทุนให้แก่ผู้เสียหาย ยิ่งทำให้หลงเชื่อโอนเงินไปลงทุนเพิ่มอีก รวมเป็นเงินความเสียหายกว่า 13 ล้านบาท

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินและเส้นทางของเหรียญดิจิทัลของผู้เสียหายพบว่า มีการโอนจากกระเป๋าผู้เสียหายไปยังกระเป๋าเหรียญดิจิทัลส่วนตัวกว่า 20 กระเป๋า เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ก่อนจะโอนไปรวมที่กระเป๋าเหรียญดิจิทัลของคนร้าย แล้วเทขายเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทย โดยพบว่าในปี 2565 แก๊งคนร้ายรายนี้มีกานขายเหรียญดิจิทัลที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีเงินหมุนเวียนกว่า 1000 ล้านบาท

ส่วนรูปแบบการกระทำความผิดพบว่าทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ คือ ระดับหัวหน้าสั่งการ , กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ติดต่อพูดคุยหลอกลวงเหยื่อ , กลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้า และกระเป๋าเงินดิจิทัลม้า , กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้า และกระเป๋าเงินดิจิทัลม้า และกลุ่มที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน โดยนำเงินไปซื้อทรัพย์สินมีค่า และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ

พลตำรวจโท จิรภพ เปิดเผยว่า การขยายผลจับกุมคดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกๆ ที่สามารถขุดรากถอนโคนตั้งแต่ผู้เปิดบัญชีม้าไปจนถึงตัวการสั่งการระดับหัวหน้า สามารถอายัดทรัพย์สินได้จำนวนมาก ซึ่งจากการขยายผลตรวจสอบข้อมูลของบริษัทนอมินี และคนไทยที่เป็นนอมินี ที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายพบว่า มีการครอบครองบ้านหรู 17 หลัง , รถยนต์หรู 11 คัน , เงินสดกว่า 6 ล้านบาท , ทองรูปพรรณกว่า 10 รายการ , นาฬิกาหรู , กระเป๋าแบรนด์เนม , คอมพิวเตอร์ , โทรศัพท์มือถือ และสมุดบัญชีธนาคารหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่ง ได้ตรวจยึดส่งให้ ปปง. ตรวจสอบเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 5 คนที่ยังหลบหนี และจะขยายผลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป

คดีที่ 2 ตำรวจ บก.ปคม. จับกุม นางสาวภาพิมล อายุ 20 ปี , นางสาวปาริฉัตร อายุ 28 ปี และนางสาวโดกี้ อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ซึ่งนายหน้าค้ากามเด็ก นอกจากนี้ยังจับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบริการได้อีก 5 คน

สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีผู้ใช้บัญชี Twitter ชื่อ Buble มีการโพสต์โฆษณาเชิญชวนค้าประเวณีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ในพื้นที่จังหวัดระยอง จึงให้สายลับอำพรางตัวติดต่อขอซื้อบริการทางเพศกับผู้ใช้บัญชี Twitter ดังกล่าว ผ่านแอปพลิเคชั่น LINE โดยผู้ใช้บัญชี Twitter ดังกล่าวได้ส่งภาพหญิงสาวมาให้เลือก แล้วติดต่อล่อซื้อโดยโอนเงินให้กับผู้ต้องหา โดยใช้บัญชีม้ารับโอนเงินเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุม ซึ่งต่อมาสามารถเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 15 ปี ที่ถูกล่อลวงมาค้าประเวณี

จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า นางสาวภาพิมล และนางสาวปาริฉัตร เป็นนายหน้าค้าประเวณีเด็ก จึงขอศาลอนุมัติหมายจับ และไปจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ค่านายหน้าในการหาลูกค้าให้กับเด็กครั้งละ 500 บาท ทำมานานกว่า 2 เดือน นอกจากนี้ยังมีเด็กสาวในสังกัดอีก 2 คน มีอายุ 14 ปีและ 16 ปี ซึ่งจากการสอบถามพบว่า การรับงานแต่ละครั้งจะได้รับการติดต่อผ่านนายหน้าอีกทอดคือ นางสาวโดกี้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานของศาลอนุมัติหมายจับ และไปจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts