4 หน่วยงานร่วมแถลงข่าวสรุปผลการขจัดคราบน้ำมันกรณีเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ไม่น่าห่วงหลังหลายหน่วยงานร่วมระดมกำลัง จนผลเป็นที่น่าพอใจคาด ไม่เกินสองวัน เข้าสู่ภาวะปกติ
วันนี้ (5 ก.ย.) พลเรือเอก ปกครอง มณธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า
นายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายณัฐพล มีฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายการกลั่น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวการสรุปผลการขจัดคราบน้ำมัน กรณีเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่าน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั่น
โดย พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ กองทัพเรือได้รับการประสานจากบริษัท ไทยออยล์ฯ ให้ทราบถึงเหตุการณ์ ประสานขอรับการสนับสนุนการปฏิบัติ จึงได้นำรูปแบบการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วไหลในทะเล มาดำเนินการ จึงควบคุมสถานการณ์ไม่ให้น้ำมันกระจายตัวออกไปไหลมาก หลังจากนี้กองทัพเรือยังคงกำลังพล และอุปกรณ์ ไว้สำหรับการปฏิบัติงาน เนื่องจากจกระดับเป็น Tier 2 แล้ว
ด้าน พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ตรวจสอบคราบน้ำมันตลอดทั้งคืนมาจนถึงเช้า ขณะนี้ยังไม่พบก้อนน้ำมันขึ้นตามแนวชายหาด พบเพียงคราบคลัายแผ่นฟิล์มบางๆ ใกล้กับเกาะสีชัง เจ้าหน้าที่ทำการวางแนวทุ่นและดำเนินขจัดคราบน้ำมันที่ลอยบนผิวน้ำ ด้วยการใช้น้ำยาสลายคราบน้ำมัน ส่วนที่หาดบางพระ ส่งกำลังพลไปประจำการ และวางแนวทุ่นสกัดคราบน้ำมันในทะเล เพราะที่ตรวจพบลักษณะคล้ายฟิล์มบางๆ แต่หากมีบางส่วนเล็ดลอดออกนอกแนวทุ่นขึ้นฝั่ง จะมีกำลังพลดำเนินการจัดเก็บคราบน้ำมันทันที
พล.ร.ท.พิชัย เผยอีกว่า สถานการณ์คราบน้ำมันที่พบในขณะนี้ ควบคุมได้ และมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากปริมาณที่พบลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์มบางๆ เท่านั้น หากดำเนินการกำจัดคราบน้ำมันแล้วเสร็จ ไม่เกินอีก 2 วัน หลังจากนี้ จะเริ่มปิดศูนย์ควบคุมฯ ได้
ขณะที่นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่ารองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ในการขจัดคราบน้ำมันในครั้งนี้ เป็นการปฎิบัติการการตามแผนขจัดมลพิษ ปี 2565 หลังได้รับแจ้งมีน้ำมันรั่วไหลลงทะเล และประเมินสถานการณ์แล้ว ต้องรีบขจัดคราบน้ำมันทันที พร้อมจัดตั้งศูนย์ฯบัญชาการ ตามแผนงานที่กรมควบคุมมลพิษ และทิศทางของกระแสน้ำขจัดคราบน้ำมัน จากนั้นได้ประสานเครื่องมือ ประกอบด้วย เรือขจัดคราบน้ำมันจากกรมเจ้าท่า บริษัทเอกชน เพื่อนำบูมมาล้อมคราบน้ำมัน จากนั้นประสานกองทัพเรือ นำฮอลิคอปเตอร์ มาโปรยสารเคมี
โดยสถานการณ์ในเช้าวันนี้ ได้รับรายงานว่าไม่พบคราบน้ำมันขึ้นฝั่ง และในทะเลมีเพียงคราบน้ำมันและแผนฟิล์มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามมีกำลังทหารจากกองทัพเรือ ลาดตะเวนและเฝ้าระวังบริเวณชายฝั่งในพื้นที่ที่คาดว่าอาจจะมีคราบน้ำมันขึ้น เพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นการดำเนินการตั้งแต่วันเกิดเหตุและถึงวันนี้ ได้ใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมันไปแล้ว จำนวน 8,000 กว่าลิตร โดยสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยถึงเตรียมการดำเนินการในสถานการณ์ในครั้งนี้ ว่าหลังจากที่ผู้ว่าฯ ได้ร่วมกับส่วนราชการและไทยออยล์ ได้ลงมาลงมาช่วยเหลือ ได้ทำการเก็บกู้ขจัดคราบน้ำมันที่รั่วอยู่ในบริเวณกลางทะเลตามแผนขจัดมลพิษทางน้ำ ปี 45 ของกรมเจ้าท่า ซึ่งขณะนี้ทุกท่านได้รับข้อมูลจากการแถลงข่าวของ ทางกรมเจ้าท่า และกองทัพเรือ ได้มีการเก็บกู้ขจัดคราบน้ำมันไปแล้วกว่า 80 % และวันนี้ยังมีการเก็บ และมีการขจัดด้วยสารเคมีต่างๆ ซึ่งเป็นแผนในการปฏิบัติในบางส่วนอาจมีคราบน้ำมันบางส่วน และบางส่วนอาจจะหมดไป ซึ่งทางเราก็ได้มีการติดตามสถานการณ์อยู่
ส่วนคราบน้ำมันที่ขึ้นไปบริเวณชายฝั่ง อาจจะมี ศรีราชา บางแสน บางพระ ต่างๆ ขณะนี้จังหวัดได้ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ เทศบาลต่างๆที่อยู่แนวชายฝั่งตรงนี้ ให้มีการติดตาม สถานการณ์ ให้มีการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนที่เกี่ยวข้องที่อยู่บริเวณชายฝั่ง ให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง หากมีคราบน้ำมันลอยขึ้นบริเวณฝั่ง เราจะมีการประสานไปยังกองทัพเรือ และหน่วยงานราชการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพเรือ กรมมลพิษต่างๆ รวมทั้งกรมเจ้าท่า องค์กรปกครองท้องถิ่นที่จะเข้าไปดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศเหตุผู้ประสบภัยพิบัติ เรายังมีการติดตามสถานการณ์อยู่ คาดการณ์สิ่งทีได้รับฟังในวันนี้ ก็คงน่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น และการเก็บคราบน้ำมันต่างๆสามารถดำเนินการด้วยดี หมดและเสร็จสิ้น ไม่ส่งกระทบอะไรต่อพี่น้องประชาชน ในวงกว้าง ซึ่งนับเป็นข่าวดี
ด้านนายณัฐพล มีฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายการกลั่น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เผยถึงรายละเอียดเหตุการณ์เพิ่มเติม พร้อมแนวทางการดำเนินการของบริษัทเมื่อเกิดเหตุ
การณ์ น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมันขณะขนถ่ายน้ำมันดิบจากทุ่นกลางทะเล (SBM 2) เมื่อพบว่ามีเหตุกาณ์เกิดขึ้น ทางบริษัทฯ ได้เข้าระงับสถานการณ์ฉุกเฉินโดยทันที ด้วยการหยุดกิจกรรมในการสูบถ่ายน้ำมันทั้งหมด หยุดปั้มที่เรือ และปิดวาล์วในระบบที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงมีการสำรวจและใช้บูมเพื่อจำกัดขอบเขตปริมาณน้ำมันที่จะแพร่กระจายออกไป
รวมทั้งมีการใช้สารขจัดคราบน้ำมันมาฉีดพ้นเพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งสารนี้เป็นสารที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และมีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฉุกเฉินของบริษัทฯ ตามแนวทางการฝึกซ้อมที่ทำอยู่เป็นประจำภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ บริษัทฯ ใช้ทรัพยากรต่างๆ ที่มีทั้งหมดเพื่อเข้าระงับเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เรือในการวางบูม การฉีดพ่นสารขจัดคราบน้ำมัน และได้มีการขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กองทัพเรือ ซึ่งสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ในการโปรยสารเคมีเพื่อขจัดคราบน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกรมเจ้าท่าฯ รวมถึงหน่วยงานเอกชน เพื่อเตรียมเฮลิคอปเตอร์จากสิงคโปร์ ให้พร้อมสำหรับการเข้าช่วยโปรยสารเคมีขจัดคราบน้ำมัน
โดยในภาพรวม บริษัทฯ มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยการนำอากาศยานขึ้นบิน ดูภาพในมุมสูงและนำเรือออกสำรวจในบริเวณต่างๆ ซึ่งจากสถานการณ์ล่าสุดช่วงเช้านี้ ไม่พบคราบน้ำมันขนาดใหญ่ เหลือเพียงฟิล์มบางๆ บางส่วน และทิศทางจะเรียบขนานไปกับเกาะสีชัง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ จะยังคงเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ และหากมีกรณีพบคราบน้ำมันบนชายฝั่ง บริษัทฯ ก็มีการเตรียมความพร้อม ทั้งประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ สำหรับดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นทีมฟื้นฟูฯ ทีมกำจัดขยะ ทีมสนับสนุนต่างๆ รวมถึงทีมรับฟังข้อเรียกร้อง และช่วยลดผลกระทบต่างๆ พร้อมสื่อสารอย่างใกล้ชิด