เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 21 ก.ย.66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธินจตุจักร กทม.
นายสมเกียรติ รักษาเกียรติ อายุ 70 ปี ชาวจังหวัดสุโขทัยเดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สายยุทธ์ ยศคำ สว(สอบสวน) กก.1 บก.ป.เพื่อยื่นหนังสือ ต่อหัวหน้าพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่านายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ปีพ.ศ. 2560 ว่าอาจจะกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญามาตรา 137 ในความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานหรือมาตรา 177 ในความผิดฐานเบิกความอันเป็นความเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ
นายสมเกียรติ กล่าวว่าจากการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญคดีระหว่างประธานสภาผู้แทนราษฎร(ผู้ร้อง) กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี(ผู้ถูกร้อง)ตามที่ นายชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะรวม 172 คนเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการที่พลเอกประยุทธ์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 มาตรา 19 และผู้ถูกร้องได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 264 วรรคแรกเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 และผู้ถูกร้องได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่แต่งตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกของรัฐธรรมนูญ 2560 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นการนับรวมระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องติดต่อกันแล้วจะครบ 8 ปีในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่
ความเห็นของนายมีชัย ที่ทำเป็นหนังสือยื่นส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ที่มีการบันทึกของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 500 และ 501
จึงเป็นความเห็นอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ
นายสมเกียรติ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้เป็นแฟนคลับฝ่ายใด ไม่ใช่นักร้องเรียน ไม่ใช่นักกิจกรรมทางการเมือง แค่เป็นประชาชนคนไทยคยหนึ่ง เรียกกฎหมายจบรามคำแหงมานานหลายปีแล้ว
แต่พบเห็นความไม่ถูกต้อง จึงไปขอคัดเอกสารการประชุมฯ จากสภาฯ มา รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมดมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบว่านายมีชัยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.137 และ ม.177 หรือไม่ ถ้าพบว่าการกระทำของนายมีชัย มีความผิดก็ให้ดำเนินคดีกับนายมีชัยตามกฎหมายต่อไป
สำหรับคดีนี้เกิดเมื่อ 31 ส.ค.2565 ท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งอยู่ แต่ตนเลือกมายื่นหนังสือร้องกองปราบปรามแทนเพราะมีอำนาจการสอบสวนทั่วประเทศ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนลงรับหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษของนายสมเกียรติ พร้อมสอบปากคำ ลงรายมือชื่อไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป