กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล.,พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ฯ รรท.ผบก.ปปป.. พ.ต.อ.อภิชาต โพธิจันทร์ , พ.ต.อ.ขวัญชาติ วงศ์ขจรไพบูลย์ รอง ผบก.ปปป. , พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย ผกก.2 บก.ปปป., พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกน ผกก.1 บก.ปปป.,พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.4 บก.ปปป.
,พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.6 บก.ปปป. ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และ นายเอกชัย เกษมสุขธวัช ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.
สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้อำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช..
นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ นายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนัก
สืบสวนและกิจการพิเศษ
ร่วมกันจับกุม นายณัฐพงศ์ ฯ อายุ 53 ปี
สถานที่ จับกุม ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ในตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. ได้รับเรื่อง
ร้องเรียนจากผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของ
เทศบาลเมืองบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีพฤติกรรมเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการ
จำนวนร้อยละ 25 ของวงเงินตามสัญญา แลกกับหนังสือคู่สัญญาที่นายกเทศมนตรีจะต้องเป็นผู้ลงนาม
อนุมัติ ในโครงการจัดซื้อ จอ LCD ซึ่งต่อมาบริษัทของผู้เสียหาย ได้เข้ายื่นเสนอราคาแข่งชันในระบบ
e-bidding และมีการแจ้งผลการแข่งขันราคา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา และเป็นผู้ชนะการ
เสนอราคาดังกล่าว แต่ปรากฎว่าถูกทางผู้บริหารของ เทศบาลเมืองบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เรียกเข้าไปคุย
เจรจา พร้อมขอเงินค่หนังสือคู่สัญญาที่นายกเทศมนตรีจะต้องเป็นผู้ลงนาม จำนวนร้อยละ 25 ของวงเงินตามสัญญาที่ได้มีการหักค่าภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว (หรือประมาณ 12,485,046.27 บาท) โดยให้จ่ายก่อนครึ่งหนึ่ง คิดเป็นเงินจำนวน 1,560,630.84 บาท ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมต่อผู้เสียหาย จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.
ซึ่งจากการสืบสวน มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอเชื่อได้ว่า นายณัฐพงศ์ ฯ นายกเทศมนตรีเมือง
บางแก้ว ฯ มีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินตามที่ผู้เสียหายมาร้องทุกข์จริง และเห็นว่าผู้กระทำผิดเป็น
จ้าหน้าที่รัฐระดับผู้บริหาร ของเทศบาลเมืองบางแก้ว ซึ่งได้ใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ในทาง
โดยทุจริตเรียกรับสินบนจากผู้เสียหายดังกล่ว ประกอบกับมีช้อมูลว่าเคยมีพฤติกรรมเรียกรับเงินในลักษณะเดียวกันกับผู้ประกอบการอื่นมาแล้วหลายราย
เป็นที่มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ประสานความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ของ ปปช. ปปท. เพื่อ
ใช้วิธีวางแผนเข้าจับกุมในขณะที่ทำการส่งมอบเงินกัน โดยได้นัดหมายให้ผู้เสียหายนำเงินสดจำนวน
๑,๕๖๐.๖๓๐.๘๔ บาทมาลงบันทึก ปจว.ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้ในการส่งมอบให้ นายณัฐพงศ์ ฯ ตามที่มี
การเจรจากันก่อนหน้านี้
กระทั่งถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้นัดให้ผู้เสียหาย นำเงินสด 1,560,650 บาท
(หนึ่งล้านห้าแสนหกหมื่นหกร้อยห้าสิบบาท ที่ลง ปจว.เป็นหลักฐานแล้ว ไปส่งมอบให้กับ นายณัฐพงศ์ ฯ
โดยมีเจ้าหน้าที่ ปปป. และปปช. ปปท.ได้วางกำลังชุ่มเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ ก่อนที่จะมีการส่งมอบเงินตามที่มีการเจรจากัน ไว้ จากนั้นขณะที่ นายณัฐพงศ์ ฯ กำลังเดินออกมาจากศูนย์การค้าดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัว เพื่อเข้าจับกุม แต่ทันใดนั้น นายณัฐพงศ์ ฯ รีบวิ่งไปบริเวณรถของตนเอง
ก่อนจะรีบโยนถุงสีดำ ซึ่งภายในบรรจุเงินชองกลาง เข้าไปบริเวณใต้ท้องรถ เจ้าหน้าที่จึงรีบควบลุมตัว นายณัฐพงศ์ ฯ ไว้ทันที
จากการตรวจสอบภายในถุงสีดำ ดังกล่าว พบเงินสด 1,560,650 บาท มีหมายเลขบนธนบัตรตรง
กับหมายเลขธนบัตรที่ ลง ปจว.ไว้ทุกฉบับ จึงได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้นายณัฐพงศ์ ฯ พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ จากนั้นนำตัวผู้ต้องไปตรวจคันที่ห้องทำงาน และสถานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสวนสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา