วันศุกร์, กันยายน 20, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมผู้ต้องหาไม่ไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีขับรถปอร์เช่เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ เมื่อปี 2562

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมผู้ต้องหาไม่ไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีขับรถปอร์เช่เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ เมื่อปี 2562

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี, พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์, พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.วันชนะ ทิพย์อาสน์ ผกก.8 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัส แซมเขียว รอง ผกก.8 บก.ทล. และ พ.ต.ท.ปรัชญา กัมลาศพิทักษ์
สวญ. ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม โดย ด.ต.เปรมวิศุทธ์ พัฒนอติพงศ์ และ จ.ส.ต.จตุพร บุญสม
ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม นายธีรเทพ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 537/2566 ลงวันที่ 27 กันยายน 2566 คดีหมายเลขดำที่ อ50/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อ1731/2563
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ความผิดต่อชีวิต ประมาท ความผิดต่อร่างกาย ประมาท ความผิดต่อ
พ.ร.บ.จราจรทางบก”

สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านพักในพื้นที่ ม.7 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับการประสานจากเจ้าพนักงานตำรวจศาลประจำศาลจังหวัดปทุมธานี ว่านายธีรเทพ อายุ 33 ปี ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีดังกล่าวข้างต้น ศาลจังหวัดปทุมธานีจึงได้ออกหมายจับผู้ต้องหา เจ้าพนักงานตำรวจศาลประจำศาลจังหวัดปทุมธานีจึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งคดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เป็นข่าวดังเมื่อปี 2562 กรณีผู้ขับขี่รถปอร์เช่เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณถนนหลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยบริเวณบ้านพักในพื้นที่ ม.7 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ จนได้พบชายไทยมีตำหนิรูปพรรณคล้ายผู้ต้องหาเดินอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่หลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตัว จากการสอบถามทราบชื่อคือ นายธีรเทพฯ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งศาลจังหวัดปทุมธานีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง ในส่วนของคดีดังกล่าว ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกผู้ต้องหา 4 ปี ปรับ 60,000 บาท ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี ปรับ 30,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี คุมความประพฤติผู้ต้องหา 1 ปี ให้ผู้ต้องหาไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง กับให้ผู้ต้องหาทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรมีกำหนด 20 ชั่วโมง ให้ผู้ต้องหาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 2,035,225 บาท และให้ผู้ต้องหาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 2 จำนวน 1,509,000 บาท ​

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.ปรัชญา กัมลาศพิทักษ์ สวญ.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts