11 พฤศจิกายน 2566 คณะทำงานแก้ปัญหาชาวไร่อ้อย ได้ข้อสรุปแก้ไขปัญหาต้นทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เตรียมเสนอให้ ครม.เคาะราคาน้ำตาลทรายขึ้นสัปดาห์หน้า แต่ยังไม่ยกเลิกให้น้ำตาลทรายอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม หวั่นกักตุนเอาเปรียบผู้บริโภค
นายยรรยง พวงราช ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เปิดเผยว่าที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันในการแก้ปัญหาน้ำตาลทราย โดยจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน และราคาจำหน่ายปลีกซึ่งเป็นราคาที่เป็นธรรมและทุกฝ่ายยอมรับได้ โดยจะยังคงน้ำตาลทรายอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุมตามเดิม
ส่วนจะปรับขึ้นราคาเท่าไหร่ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ เนื่องจากจะต้องผ่านการพิจารณาอีกหลายขั้นตอน โดยจะต้องนำเสนอผลสรุปให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณา และนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติในวันที่ 14 พ.ย.2566
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายครั้งนี้ เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเหตุผลให้ผู้ผลิตสินค้ายื่นขอปรับขึ้นราคา ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์พยายามดูแลปัญหาเงินเฟ้อ ไม่ให้การปรับราคาน้ำตาลทรายกระทบต่อราคาสินค้า เนื่องจากเป็นต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสินค้าหลายรายการ เช่น อาหาร และยารักษาโรค
นอกจากนี้ ในระหว่างที่ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายน้ำตาลทราย คณะทำงานฯ ได้มีข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลว่ากรมการค้าภายใน และสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย หรือ สอน.จะต้องช่วยกับดูแลไม่ให้เกิดปัญหาการกักตุนน้ำตาลทรายก่อนการปรับขึ้นราคา รวมทั้งให้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นหากจะมีการปรับเปลี่ยนราคาน้ำตาลทรายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เนื่องจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกไม่คงที่มีความผัวผวนต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นเกี่ยวกับข้อเสนอการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย 2 บาท เพื่อเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อนำไปจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ปลูกอ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานน้ำตาลตามนโยบายลดฝุ่น PM 2.5 นั้น ขอให้รัฐบาลไปพิจารณางบประมาณในส่วนอื่นเพื่อบริหารจัดการเรื่องมลพิษ ไม่ควรผลักภาระมาให้กับผู้บริโภค
แหล่งข่าวคณะทำงานบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลเปิดเผยว่าที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันให้มีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน กิโลกรัมละ2 บาท โดยน้ำตาลทรายขาว ปรับขึ้นเป็นเป็น ก.ก.ละ 21 บาท และน้ำทรายขาวบริสุทธิ์ ปรับขึ้นเป็น ก.ก.ละ 22บาท โดยคาดว่าราคาใหม่จะมีผลบังคับทันทีภายหลังผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
นายกำธร กิตติโชติทรัพย์ นายกสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 เปิดเผยว่า ราคาที่ชาวไร่อ้อยพอใจคือ กิโลกรัมละ 4-5 บาท แต่ก็ต้องคุยในรายละเอียดในที่ประชุมอีกครั้ง เพราะที่ประชุมวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องตัวเลข แต่ถ้าได้ราคาที่ 2 บาท ชาวไร่อ้อยยังไม่มีคำตอบเพราะถ้าถามว่าอยากได้ราคาเท่าไร่ชาวไร่อ้อยถึงจะพอใจ คือ 4-5 บาท อย่าเอาราคาน้ำตาลโลกมาเป็นตัวชี้วัดของชาวไร่อ้อยในการขอขึ้นราคาเพราะไม่ใช่ประเด็นแต่ที่ชาวไร่อ้อยอยู่ไม่ได้คือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทุกปี ต้องบอกว่าทุกวันนี้คนไทยบริโภคน้ำตาลถูกที่สุดในโลก ถ้าพวกเราชาวไร่อ้อยเลิกทำ เชื่อว่าคนไทยจะกินน้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 100 บาทแน่นอน การประชุมวันนี้ยังไม่ได้คำตอบ100% ว่าจะปรับราคาได้มากน้อยแค่ไหน