วันนี้ (10 มี.ค.65) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บชน. พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.พระโขนง และ น.ส.ชุลี สงวนกิจ ผู้ปกครองสถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด ได้แถลงผลการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง สามารถติดตามจับกุม นายคิงส์ คงลิน หรือ “แป๋ง” อายุ 29 ปี ชาว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ ล่อลวงเด็กตระเวนขอทานตามสถานที่ต่าง ๆ
โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า ตามนโยบายป้องกันและปราบปรามของ พล.ต.อ.สุวัจน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ที่เน้นย้ำตระหนักถึงปัญหาการค้ามนุษย์ ที่ต้องการแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้มนุษย์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(ศพดส.น.) ได้รับแจ้งว่า เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง ได้รับ แจ้งจาก นางซัม วานา สัญชาติ กัมพูชา ซึ่งเป็นย่าของ ด.ช.เปา อายุ 6 ปี ให้ช่วย ติดตามหาหลานชาย ซึ่งหายไปจากความดูแลเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ (7-11) สาขาปากซอยสุขุมวิท 79 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวต่อว่า ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายคิงส์ ได้หลอกล่อพาผู้เสียหาย ไปจากที่เกิดเหตุ จึงสืบสวนติดตามคนร้ายเรื่อยมา พร้อม ประสานความร่วมมือกับมูลนิธิกระจกเงาในการช่วยติดตามตัวอีกทางหนึ่ง ต่อมาเวลา 20.00 น. วันที่ 8 มีนาคม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเห็น นายคิงส์ กับ ด.ช.เปา ซึ่งมีลักษณะการแต่งกายตามข้อมูลที่ปรากฎ นั่งขอทำนอยู่บริเวณสะพานลอย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อตำรวจไปตรวจสอบ พบว่าหลบหนีไปก่อนแล้ว
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ต่อมาช่วงเช้า วันที่ 9 มีนาคม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเห็น ด.ช.เปา กับ นายคิงส์ นั่งขอทานอยู่บริเวณสะพานลอย ปากซอยสุขุมวิท 18 แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบพบว่าหลบหนีไปแล้ว จนกระทั่งเวลา 15.00 น. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีอีกครั้งว่า พบเห็น ด.ช.เปา กับนายคิงส์ เดินขอทานอยู่บริเวณห้างอิมพิเรียลเวิลด์สำโรง ถนนสุขุมวิท ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตตำรวจชุดจับกุมจึงเดินทางไปตรวจสอบทันที เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบเห็น นายคิงส์ กำลังพา ด.ช.เปา นั่งขอทานอยู่ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และยึดของกลางเป็น แก้วพลาสติกและเงินเหรียญ 10 บาท จำนวน 2 เหรียญ
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำ นายคิงส์ รับว่าได้พาตัว เด็กมาจากร้านสะดวกซื้อจริง โดยใช้วิธีการล่อลวงให้ขนม และพาไปเล่นเกมส์ ก่อนจะพาไปขอทานตามสถานที่ต่างๆ รายได้วันละ 100-200 บาท นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายคิงส์ เคยก่อเหตุมาแล้ว 8 ครั้งในพื้นที่ กรุงเทพฯ , สมุทรปราการ และนครปฐม บางคดีไม่ปรากฎเป็นข่าวเนื่องจากญาติเมื่อพบตัวเด็กก็ไม่ได้เข้าแจ้งความเพราะคิดว่านายคิงส์มีอาการทางประสาท นอกจากนี้ยังพบประวัติเคยต้องโทษ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และ คดีค้ามนุษย์ ในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม เมื่อปี 2560 ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี 5 เดือน 26 วัน และพบว่านายคิงส์ก่อเหตุเพียงคนเดียวยังไม่มีขบวนการ หรือ แก๊งค์ขอทานเข้ามาข้องเกี่ยวแต่อย่างใด
ด้าน น.ส.ชุลี กล่าวว่า ภายหลังจากนี้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะให้การช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นได้รับตัวเด็กชายเปาไปดูแลเยียวยา และทำการพูดคุยคัดแยกเด็กซึ่งเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์เพื่อดำเนินการคุ้มครองเหยื่อต่อไป และหากมีผู้ปกครองมาติดต่อขอรับตัว เมื่อสิ้นสุดกระบวนการเยียวยาจนเด็กพร้อมที่จะออกไปใช้ชีวิตตามปกติ ก็จะประสานผู้ปกครองให้มารับตัวต่อไป
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการหากำไร โดยปราศจากเหตุอันสมควร และค้ามนุษย์” ก่อนส่ง พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป