เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.66 ที่ กทม. นายกฤษฎา อินทามระ “ทนายปราบโกง” เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่ บางปะกง ฉะเชิงเทรา เมื่อเดือน พ.ย. ให้ความช่วยนักธุรกิจหญิงที่โดนสร้างศาลาบุกรุกที่ดิน ที่ตรวจสอบพบพิรุธงบก่อสร้าง SML ไม่โปร่งใสเสร็จสิ้นแล้ว
ล่าสุด ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ขอให้ช่วยตรวจสอบพื้นที่ดินภายในเกาะโหลน หาดราไวย์ซึ่งเป็นเป็นหาดทรายอันสวยงามตามธรรมชาติ ทอดยาวตลอดมีเนื้อที่นับสิบไร่พบว่ามีนายทุนเข้ามาบุกรุกยึดครองพื้นที่ไม่ชอบมาพากล น่าเชื่อว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐ เข้ามาให้เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือในการออกเอกสารที่ดิน
เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่าเมื่อประมาณ ปี 64 นายทุนหญิงรายหนึ่งได้ขายบ้านของตนได้เงินสดประมาณ 200 ล้านบาท แต่ก็ไม่ใช้เงินจำนวนนี้ไปซื้อบ้านหลังใหม่ให้สมฐานะความร่ำรวย แต่กลับกลายเป็นว่าหญิงรายนี้โดดเข้ามาเป็นเจ้าบ้าน“ขนำ”ซึ่งไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำจืดใช้ ห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะก็ไม่มี
ตนเชื่อว่า นายทุนหญิงรายนี้อาจจะมีเจตนาพิเศษแอบแฝงเพื่อต้องการผลประโยชน์จากการเข้ามาเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้านเลขที่ดังกล่าว
ซึ่งดูจากสภาพที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของ”ขนำ“เห็นได้ว่าเป็นหาดทรายอันสวยงามทอดยาวตลอดมีเนื้อที่นับสิบไร่ ราคาซื้อขายกันในท้องตลาดไร่ละ 15 – 25 ล้านบาท แสดงว่าหญิงรายนี้ต้องการผลประโยชน์จากการเข้ามาเป็นเจ้าบ้านอย่างแน่นอน ส่วนจะมีหน้าที่รัฐให้การช่วยเหลือในการออกทะเบียนบ้านขนำดังกล่าว เอื้อประโยชน์ให้นายทุนหญิงรายนี้สามารถเข้าไปเป็นเจ้าบ้าน เพื่อสะดวกในการออกส.ค.(ใบแจ้งการครองครองที่ดิน)บิน หรือไม่
ดังนั้น ในสัปดาห์หน้า ตนและทีมงานจะลงพื้นที่เกาะโหลน จ.ภูเก็ตเพื่อตรวจพิสูจน์หาหลักฐานนำมาเปิดโปงขบวนการทุจริตในครั้งนี้ต่อไป