“…หลังจากลาสิขาไปเป็นฆารวาสเต็มขั้นแล้ว จะกลับไปทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายฟ้องคดีปกครองให้ชาวบ้านผู้เดือดร้อนและเสียหายจากหน่วยงานรัฐเหมือนเดิม รวมทั้งยังมีเรื่องที่จะต้องตรวจสอบข้าราชการและนักการเมืองให้เข้มข้นมากกว่าเดิม ซึ่งมีเรื่องที่เข้าคิวตรวจสอบแล้วหลายเรื่อง …”
ศรีสุวรรณลาสิกขากลับมาสวมหน้ากากยักษ์ตรวจสอบข้าราชการ-นักการเมืองเข้มข้น วันนี้ (6 ม.ค.67) เวลา 06.39 น.พระศรีสุวรรณ สิริภทฺโท ได้กราบนมัสการขอลาสิกขาจากพระครูภาวนาธรรมธารี (สัมพันธ์ ปญฺญาปทีโป) เจ้าคณะอำเภอเมืองปราจีนบุรี เจ้าอาวาสวัดป่ามะไฟ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกลับมาเป็นฆารวาส ในฐานะผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินเหมือนเดิม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.66 ที่ผ่านมานายศรีสุวรรณได้เข้าบรรพชาอุปสมบท เป็นภิกษุในบวรพุทธศาสนาเป็นระยะเวลา 15 วันเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง และบูรพมหากษัตริย์ไทยในอดีตทุกพระองค์ รวมทั้งบิดามารดา ผู้ให้กำเนิดด้วยหลังจากลาสิขาไปเป็นฆารวาสเต็มขั้นแล้ว จะกลับไปทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายฟ้องคดีปกครองให้ชาวบ้านผู้เดือดร้อนและเสียหายจากหน่วยงานรัฐเหมือนเดิม รวมทั้งยังมีเรื่องที่จะต้องตรวจสอบข้าราชการและนักการเมืองให้เข้มข้นมากกว่าเดิม ซึ่งมีเรื่องที่เข้าคิวตรวจสอบแล้วหลายเรื่อง อาทิ การยื่นตรวจสอบการจัดซื้อจัดหากำไล EM ของกรมราชทัณฑ์ที่อาจมิชอบ การตรวจสอบนักโทษเทวดา ชั้น 14 รพ.ตำรวจ การตรวจสอบการขุดเจาะน้ำบาดาลในอดีตที่อาจมิชอบ การตรวจสอบการขยายถนนเลี่ยงเมืองสระแก้วของกรมทางหลวงชนบท การตรวจสอบการคอรัปชันของผู้บริหาร ม.ราชภัฎในภาคอิสานบางแห่งที่ร่ำรวยผิดหูผิดตา การคอรัปชันของผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรปราการ
นอกจากนั้น ยังต้องตรวจสอบการทิ้งขยะพิษใน จ.ฉะเชิงเทรา จะระยอง การตรวจสอบมาตรฐานรถไฟฟ้าสายมีชมพู-สีเหลือง และสีเขียว การตรวจสอบการจัดซื้อจัดหาเครื่องบินโดยสารชุดใหม่ของ ทอท. การตรวจสอบระบบ IT อาคารกระทรวงมหาดไทยใหม่ การฟ้องการจัดทำเขื่อนริมแม่น้ำป่าสักของกรมเจ้าท่า การฟ้องปลัด ก.เกษตรฯเกี่ยวกับปัญหานมโรงเรียน การฟ้องระงับการจัดทำผังเมือง กทม.มิชอบ รวมทั้งการเตรียมร่างฟ้องระงับเงินดิจิทัล 10000 บาทของรัฐบาลเศรษฐาด้วย นายศรีสุวรรณกล่าว
