เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 ม.ค.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นาย อัครเดช โยธาจันทร์ หรือ “เบ๊น อาปาเช่” พาผู้เสียหาย 20 ราย ร้องทุกข์ พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.จากกรณีถูกมิจฉาชีพมาในคราบผู้บริหารบริษัทใหญ่ ระดับมหาชนใช้หน้าที่การงานที่ดี บวกกับความสามารถในการขายของ พูดจาโน้มน้าวคน โดยหลอกทุกคน บางคนที่โดนถึงขนาดต้องไปกู้ยืมใครมา และบางคนโดนเงินก้อนสุดท้ายแล้วของชีวิต
คนที่โกงรายนี้ใช้ชื่อเล่นว่า“เต๋า”โดยมีผู้เสียหายช่วงนั้นจะเป็นคนสนิท หรือลูกค้าที่เค้าสนิท ซึ่งคนที่โกงนี้ทำงานเกี่ยวกับขายคอนโด ผู้เสียหายราวๆ 20 ราย มูลค่ารวม 50 ล้านบาท
“เบ๊น อาปาเช่ เปิดเผยว่า วันนี้ ตนพาผู้เสียหาย 10 ราย แจ้งความร้องทุกข์ พนักงานสอบสวน ปคบ. เพราะผู้เสียหาย หลังจากมีผู้เสียหายขอความช่วยเหลือมาที่เพจของตน โดยแต่ละคนจะโดนโกงรูปแบบแตกต่างกันไป มีทั้ง โกงคอนโด และโกงเงิน พฤติการณ์ของคนร้าย จะแอบอ้าง ว่าขายคอนโด และแอบอ้างการขายบ้านต่างๆ ซึ่งต้องรอหมายจับ เพราะหมายจับยังไม่ออก ผู้ก่อเหตุยังลอยนวล ไม่มีไม่หนี ไม่จ่าย
โดยในครั้งนั้นผู้เสียหาย ไม่ได้แจ้งความ หรือ ดำเนินการอะไรเป็นกิจจะลักษณะ เพราะคนโกงรู้กฎหมายดี หาทางหลบเลี่ยงและด้วยความเป็นเพื่อน ผู้ก่อเหตุก็ได้บีบน้ำตาขอความเห็นใจ อ้างสารพัดเหตุผลต่างๆ นานาจนเรื่องราวผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุจึงเริงร่ารอดคดีไป โดนไล่ออกจากบริษัท ที่ทำงานอยู่ก็ออกไปหางานบริษัทใหม่ในวงการเดิมคืออสังหาฯ ย้ายเข้าโน่นออกนี่อยู่หลายที่ เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ ด้วยความเป็นคนพูดเก่ง น่าเชื่อถือ เลยสามารถได้งานบริษัทดีๆ ตำแหน่งสูง แต่ในระยะเวลาไม่กี่ปี ก็เปลี่ยนไปหลายที่ ไปสร้างเรื่องไว้บ้าง หรือไม่ก็พอเรื่องเก่าวีรกรรมเริ่มแดง ก็ชิงลาออก จนเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยครั้งนี้ใช้ชื่อว่าแทมมี่ คราวนี้ยอดมหาศาลไปถึง 30 ล้าน ผู้เสียหายเพิ่มอีกหลายสิบคน
ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างชัดเจน คิดว่า กฏหมายไทยทำอะไรเขาไม่ได้ ทำผิดกี่ครั้งก็ไม่โดนจับ และยังชอบอ้างว่าตัวเองรู้จักคนใหญ่คนโตฝั่งนครปฐม ไปข่มขู่ผู้เสียหายอีก บอกผู้เสียหายว่าถ้าใครแจ้งความเอาผิดเขาก็จะไม่ได้เงินคืน
โดยแต่ละครั้งที่โกง ผู้เสียหายบางคนถึงขนาดจะฆ่าตัวตาย บางคนกู้ยืมจนถึงขนาดจะล้มละลาย แต่เขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้สบาย เอาเงินที่หลอกลวงคนอื่นไป ไปใช้ชีวิตอย่างหรูหราไฮโซ
วันนี้จึงมาร้องทุกข์พนักงานสอบสวน ปคบ.ให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพแสบรายนี้ เอาตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายแต่ละราย พบว่ามีทั้งแจ้งความท้องที่เกิดเหตุมาแล้ว และมีความคืบหน้าถึงขั้นออกหมายเรียกครั้งที่สอง บางรายตัดสินใจฟ้องศาลเอาก็มี ส่วนรายใดที่ยังไม่แจ้งความก็ดำเนินการรับแจ้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป