“…“นภินทร” ดูธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน พื้นที่ eWTP เขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ฉะเชิงเทรา เพื่อดันสินค้าไทยบุกจีน มีนโยบายที่จะให้ไทยได้ใช้ประโยชน์จาก eWTP ของจีนเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันจีนมี eWTP อยู่ 10 แห่งทั่วโลก โดยมี 5 แห่งในจีน ส่วนในประเทศอื่นๆ ได้มีการจัดตั้ง eWTP ในอีก 5 ประเทศ รวมทั้งไทย เป็นเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งแรกในประเทศไทย ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อำนวยความสะดวกในด้านการนำเข้าและส่งออกครบวงจร ให้บริการด้านศุลกากร ด้านการบริหารจัดการสต๊อกสินค้า และด้านการนำเข้าและส่งออก ได้เตรียมปักหมุดส่งสินค้าไทยไปจีน นำสินค้าบุกตลาดจีนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยออกแบบให้สินค้าสามารถส่งถึงผู้ประกอบการปลายทางได้ภายใน 14 วัน..”
นภินทร รมช.กระทรวงพาณิชย์ และผู้ช่วยรัฐมนตรี นำเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์เยี่ยมชมเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (eWTP Thailand Duty Free Zone) จังหวัดฉะเชิงเทรา และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการไทย นำสินค้าบุกตลาดจีนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เตรียมปักหมุดส่งสินค้าไทยไปจีน
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าตนและ นายภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ได้นำคณะร่วมกับผู้แทนของสถานเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (eWTP Thailand Duty Free Zone) จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเป็นเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งแรกในประเทศไทยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งอยู่ภายใต้ความดูแลของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ที่อำนวยความสะดวกในด้านการนำเข้าและส่งออกครบวงจร ให้บริการด้านศุลกากร ด้านการบริหารจัดการสต๊อกสินค้า และด้านการนำเข้าและส่งออก ที่สามารถรองรับการให้บริการในรูปแบบการเช่าพื้นที่เพื่อเป็นโกดังเก็บสินค้ารอนำเข้าและส่งออกในรูปแบบคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) และรอการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ข้ามพรมแดน (Stock first, order later) ที่ออกแบบให้สินค้าสามารถส่งถึงผู้ประกอบการปลายทางได้ภายใน 14 วัน โดยมีระบบ e-Seal เพื่อตรวจสอบการเดินทางของสินค้าในรูปแบบออนไลน์ – Public Service Platform (PSP)
นายนภินทร กล่าวว่า “เราตั้งใจมีนโยบายที่จะให้ไทยได้ใช้ประโยชน์จาก eWTP ของจีนเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันจีนมี eWTP อยู่ 10 แห่งทั่วโลก โดยมี 5 แห่งในจีน ได้แก่ เมืองหางโจวและเมืองอี้อู มณฑลเจ้อเจียง มณฑลไห่หนาน และฮ่องกง ส่วนในประเทศอื่นๆ ได้มีการจัดตั้ง eWTP ในอีก 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เบลเยียม เม็กซิโก เอธิโอเปีย และรวันดา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกสินค้าไปยังจีนได้เพิ่มมากขึ้น…”
รมช.พาณิชย์ เผยว่า “โดยสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมุ่งเน้นเพื่อยกระดับความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านอุตสาหกรรม ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในการขยายตลาดทั้งระดับประเทศและระดับโลก ด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เสริมสร้างความร่วมมือในการสร้างขีดความสามารถทางวิชาการ ร่วมมือกันพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล และส่งเสริมกลไกด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน และด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ และศึกษาแง่มุมความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในการสร้างสภาพแวดล้อมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน”
นายนภินทร กล่าวอีกว่า “กระทรวงพาณิชย์เองยังมีแผนผลักดันผู้ประกอบการไทยให้ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้าต่างๆ ที่สำคัญในประเทศจีน เพื่อส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศจีนผ่านบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว”
ขณะเดียวกันยังได้เตรียมศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ในการใช้งาน eWTP ในหลายประเทศ เพื่อส่งเสริมโอกาสการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศของไทย โดยใช้ประโยชน์ด้านศุลกากรและคลังสินค้าทัณฑ์บนที่สะดวกและคล่องตัวเพื่อสร้างโอกาสให้สินค้าของไทย
คอลัมน์ #สืบเศรษฐกิจ #สืบจากข่าว รายงาน