สาวร้องสื่อ! ถูกกระชากสร้อยหนัก 5 บาท ตร.ปล่อยเรื่องนาน 9 เดือน ทั้งที่รู้โจรเป็นใคร ล่าสุด ตร.พัทยา จับโจรได้แล้ว เก๋าเกมส์ปากแข็งไม่ให้ปากคำ-ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
จากกรณีปรากฏทางสื่อ “ชาวบ้านร้องสื่อถูกกระชากสร้อยหนัก 5 บาท ตร.ปล่อยเรื่องนาน 9 เดือน ทั้งที่รู้โจรเป็นใคร พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี “
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2566 เวลาประมาณ 21.52 น. ขณะที่ น.ส.เปรมปรีย์ สุทธหลวง ผู้เสียหาย กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ภายในซอยบงกช เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้าย เป็นชาย ไม่ทราบชื่อสกุล ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ตามมาจากทางด้านหลังและมาประกบด้านข้าง จากนั้นคนร้ายได้กระชากสร้อยคอทองคำที่ผู้เสียหายที่สวมใส่อยู่ แล้วหลบหนีไปพร้อมกับสร้อยคอทองคำของผู้เสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ภายหลังได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ตลอดจนเส้นทางของคนร้ายทั้งก่อนและหลังก่อเหตุอย่างต่อเนื่องกว่า 20 จุด กระทั่งพบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิน สีฟ้า ทะเบียน 1กย 7694 นครสวรรค์ เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิด และพักอาศัยอยู่ที่ ศรีวิภา 5 อพาร์ทเมนท์ เลขที่ 159/383 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนทราบว่าผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในคดีนี้คือ นายสุพัฒน์ ธารบริสุทธิกุล อายุ 41 ปี ที่อยู่ 35/4 ม.9 ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพันจ.เพชรบูรณ์ ซึ่งหลังก่อเหตุพบว่าคนร้ายได้กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อพาร์ทเมนท์ฯแล้วออกจากอพาร์ทเมนท์หลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน จัดทำรายงานการสืบสวน เสนอ พงส.สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินการออกหมายจับมาดำเนินคดี
ต่อมาวันที่ 25 กันยายน 2566 ศาลจังหวัดพัทยาได้อนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุไว้ตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยาที่ จ.519/2566 ลงวันที่ 25 กันยายน 2566 ในความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้สืบสวนติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
จนกระทั่งวันที่ 17 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองพัทยา สืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่บริเวณบ้านนาฟิน ม.12 ต.นาเริก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จึงได้ร่วมกันวางแผนและเข้าทำการตรวจสอบ กระทั่งสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่บริเวณริมถนนบ้านนาฟีน ขำกา ซอย2 ม.12 ต.นาเริก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ประสงค์ให้ถ้อยคำใดๆแต่อย่างใด.