เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 มี.ค.67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พา ผู้เสียหายร้องกองปราบฯ คุ้มครองพยานเกรงจะไม่ปลอดภัย และกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและความปลอดภัยกับครอบครัวเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 เวลาโดยประมาณ 20.00 น. นาย ณัฐชัย สงวนนามสกุล ผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บ ได้ออกมาหาอะไรทานนอกบ้านกับเพื่อน และเมื่อเวลาประมาณ 23.15 น.ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับรถตามและปาดให้จอดข้างทางจากนั้นได้รุม 10 คนรุมทำร้ายร่างกาย และเพื่อน 1 คนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยใช้แก้วเยติและหมวกกันน็อคฟาดเข้าที่ศีรษะและท้ายทอยหลายครั้ง รุมกระทืบทุบตีอย่างไม่ปราณีเน้นในจุดที่อันตราย
นาย ณัฐชัย ผู้เสียหาย เล่าว่า วันที่เกิดเหตุตนได้นัดเพื่อน 1 คน ออกไปทานข้าวข้างนอก ขณะที่ตนกำลังขับรถอยู่กับเพื่อน มีกลุ่มวัยรุ่น ที่ คาดว่า น่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นแถวนั้น ประมาณ 10 คน ขี่รถจักรยานยนต์ มาปาดหน้า รถตน กับเพื่อน และเข้ามา กระทืบ และใช้แก้วเยติและหมวกกันน็อคฟาดเข้าที่ศีรษะและท้ายทอยหลายครั้ง รุมกระทืบทุบตี ใช้เวลารุมประมาณเกือบ 10 นาทีก่อนที่หัวหน้าแก๊งจะขับรถมาสมทบแล้วบอกพวกว่าลูกชายไม่เกี่ยวเลยหิ้วปีกออกไปไว้ท้ายมอเตอร์ไซค์ แล้วบอกว่าผิดตัว ก่อนจะแยกย้ายกันออกไป ซึ่งทำให้ตนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตาแตก มีอาการมึนหัว เบลอปวดหัวอาเจียน เลือดออกทางจมูก เลือดออกในตา ฟกช้ำทั้งศีรษะท้ายทอย และที่ใบหน้า โหนกแก้มร้าว
ซึ่งตนยืนยัน ว่าไม่ได้รู้จักกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้มาก่อน เพราะปกติตนจะไม่ค่อยมาที่บริเวณนี้ ก็ปกติตนจะไปทำงานกับพ่อแม่ ซึ่งที่เกิดเหตุตนแค่จะออกไปทานข้าวกับเพื่อนที่เคยรู้จักกันแค่นั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ถึงได้มาทำร้ายตนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และจากการสืบและสอบถามชาวบ้านแถวนั้นทราบว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้มีแก๊ง ของเขาค่อนข้างที่จะใหญ่อยู่แถวนั้นมีหัวหน้าแก๊ง ตนเลยคิดว่ากลัวจะได้รับอันตราย อีกครั้งจึงได้มาร้องจ่าคิงส์ ให้พามาร้องที่กองปราบ เพื่อคุ้มครองตนและครอบครัวและจับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับใครอีก
แม่ผู้เสียหาย เปิดเผยต่อว่า ตนอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย ว่าลูกตนเป็นคนบริสุทธิ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนั้น และลูกชายตนไม่ได้ไปกระทำความผิดใดๆ ยืนยันในความบริสุทธิ์ของลูกชาย ซึ่งการเป็นอยู่ในตอนนี้ค่อนข้างลำบากไม่กล้าออกจากนอกบ้านเพราะกลัวว่ากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้จะทำร้ายร่างกายอีก ต้องสั่งข้าวมากินในบ้าน สร้างความหวาดกลัวและหวาดระแวงให้กับครอบครัวตน จึงอยากมาขอให้ตำรวจปราบปรามกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ เพราะจากการพูดคุยกับชาวบ้านแถวนั้นเขาก็หวาดกลัวและหวาดระแวงว่าเขาก็จะโดนทำร้ายเหมือนกันเพราะฉะนั้นอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและจัดการวัยรุ่นกลุ่มนี้ให้ถึงที่สุดเพื่อความปลอดภัยของครอบครัวตนและชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้น
จ่าคิงส์ กล่าวสุดท้ายว่า อยากให้ กองปราบเข้ามาช่วยเหลือคดีนี้ และคุ้มครองพยาน พวกเขาถูกทำร้ายเขาไม่กล้าออกไปไหนเพราะกลัวว่าจะโดนทำร้ายอีกครั้ง และอยากฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อยากให้ดูแลเคสนี้เป็นกรณีพิเศษ ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าแก๊ง เป็นแก๊งใหญ่ สร้างความเดือดร้อนอย่างมาก
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้งความแล้วจะได้ประสานท้องที่เร่งรัดติดตามกลุ่มคนทำร้ายผู้เสียหายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไ