กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.อริยพล สินสอน พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส. พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์ พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.
ร่วมกันจับกุม นายวิกรานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 274/2563 ลง 19 พ.ค.2563 โดยจับกุมได้ที่บริเวณสำนักงานให้เช่าย่าน ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณ ปี 2562 ผู้ต้องหาอ้างตนเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. และกรรมการผู้จัดการบริษัทร้านเพชรชื่อดัง สร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเองเป็นผู้มีหน้ามีตาในสังคม และใช้โปรไฟล์หลอกลวงให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในกิจการร้านเพชร โดยจะให้ผลตอบแทน 5 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา 10 วัน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ตกลงร่วมลงทุนด้วยเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท
ต่อมาผู้ต้องหาไม่สามารถนำผลตอบแทนมาให้แก่ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันได้ และเมื่อผู้เสียหายติดตามไปดูที่ร้านเพชรที่ถูกอ้าง ปรากฏว่าร้านเพชรดังกล่าวได้ปิดไปแล้วหลายปี จึงทราบว่าถูกหลอก ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย โดยจากการตรวจสอบพบว่าเคยมีประวัติคดีเช็ค, ยักยอก, ฉ้อโกง รวม 13 คดี ตั้งแต่ปี 52
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา จนกระทั่งพบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่บริเวณสำนักงานให้เช่าย่าน ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2565 เวลาประมาณ 16.30 น. และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภายหลังจากที่ ชุดสืบสวนของ กก.1 บก.ปทส. เข้าจับกุม เจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกหลอกในลักษณะดังกล่าว รวมไปถึงการลงทุนร้านเครื่องประดับ การลงทุนที่ดิน และการลงทุนโควตาลอตเตอรี่ ซึ่งมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงและยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนภัย ประชาชนอย่าหลงเชื่อในการกระทำดังกล่าว
และหากพบผู้กระทำความผิดก่อเหตุในลักษณะนี้ โปรดแจ้งความดำเนินคดีเพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป