วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 28, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

Related Posts

ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ทลายฐานปฏิบัติการใหญ่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา เมืองพระสีหนุ หัวโจกเป็นชาวไต้หวัน มีคนไทยเป็นลูกน้อง รวม 61 คน  อ้างบริษัทขนส่งพัสดุดังระดับโลก หลอกเหยื่อในไทยอย่างเป็นขบวนการ ตำรวจไซเบอร์ประสานตำรวจกัมพูชาบุกทลาย 2 จุด

               วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2565  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร.) หรือ PCT : Police Cyber Taskforce เป็นประธานแถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 28 คน และยังสามารถช่วยเหลือเหยื่อคนไทยได้ 5 คน อยู่ระหว่างคัดแยกอีก 28 คน รวม 61 คน ในเมืองพระสีหนุ หลังจากสืบทราบว่า หลอกเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และพนักงาน DHL, FedEx จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมา

               สำหรับคดีนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5 PCT นำทีมสืบสวนจนทราบแหล่งกบดานของเครือข่ายที่ใช้อาคารในเมืองพระสีหนุ เป็นฐานปฏิบัติการ จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการ เดินทางไปประเทศกัมพูชา เพื่อประสานขอความร่วมมือกับตำรวจกัมพูชา

               วันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ซาร์  เธธ รองผบ.ตร.ของกัมพูชา ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วัน วีรา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองพระสีหนุ สนธิกำลังกับตำรวจไทย เข้าตรวจค้นสำนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 แห่ง ในเมืองพระสีหนุ โดยจุดที่ 1 เป็นโรงงานร้าง ถนนสันติภาพ จุดนี้มีแผนประทุษกรรมหลอกลวง ดดยการโทรศํพท์ไปหาเหยื่อ ก่อนจะอ้างว่ามีพัสดุจากบริษัทขนส่ง DHL หรือ FedEx  แต่ถูกด่านศุลกากรอายัดพัสดุไว้ และมีสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นจะมีผู้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่ ติดต่อไปเพื่อตรวจสอบบัญชีหรือตรวจสอบการเงินเพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ โดยใช้รูปโปรไฟล์ในแอพพลิเคชั่นเป็น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มาแอบอ้างทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ

               ในการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาได้ 28 คน เป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับไว้แล้วทั้งหมด คือ นายซิน ฮังเต หรือนายอาเต่อ อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน เป็นหัวหน้าใหญ่ นายจางเจียนเทียน หรืออาหู อายุ 41 ปี ชาวไต้หวัน หัวหน้าใหญ่ และนายพรศักดิ์ รีพล อายุ 30 ปี ชาวไทย พร้อมพวกอีก 25 คน ในข้อหาร่วมกันฉัอโกงประชาชนโดยการาแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันเป็นอั้งยี่ร่วมกันเป็นซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันฟอกเงิน นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบพยานหลักฐานสำคัญคือ โทรศัพทมือถือยี่ห้อ ไอโฟน จำนวน 30 เครื่อง วิทยุสื่อสาร 8 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก  จำนวน 4 เครื่อง สคริปต์เตรียมบทพูด เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และเป็นเจ้าหน้าที่จาก DHL,FedEX เอกสารหมายจับศาลอาญา ซึ่งเป็นเอกสารปลอม เอกสารหมาเรียกของสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นเอกสารปลอม

               ส่วนจุดที่ 2 เป็นอาคาร Diwei Entertainment City  ถนน 2 ธนู เมืองพระสีหนุ ซึ่งเปิดเป็นบ่อนกาสิโน ลักลอบประกอบกิจการคอลเซ็นเตอร์บนชั้น 5 จุดนี้มีแผนประทุษกรรมหลอกลวงโดยการลวงให้หลงรักในแอพพลิเคชั่น Tinder จากนั้นชักชวนลงทุนเทรดเงินดิจิทัล โดยจะให้โอนเหรียญชนิด usdt เข้าไปในกระดานเทรดเหรียญเถื่อน บางรายที่เทรดในโหมด Futures Trade ซึ่งมีความเสี่ยงสูง และหากผู้ถูกหลอกลวงสมารถเทรดจนได้กำไรในพอร์ต ก็ไม่สามารถถอนเงินออกได้ ส่วนขั้นตอนสุดท้าย คือจะถูกหลอกให้เสียเงินภาษี เพื่อถอนเงินในพอร์ตออกมา แต่เมื่อผู้ถูกหลอก โอนเงินเข้าไปแล้ว ก็ไม่สามารถถอนเงินออกจากพอร์ตได้เลย นอกจากนี้ ยังใช้วิธีการหลอกลวงให้ร่วมลงทุนกับการขายสินค้าแอพพลิเคชั่น Lazada ให้ผลตอบแทนสูง

               ผลการตรวจค้นครั้งนี้พบคนไทย 33 คน กำลังทำงานคุยกับลูกค้า โดยในจุดนี้ยังต้องทำการคัดแยกต่อว่าใครเป็นเหยื่อ ใครเป็นผู้ต้องหา เบื้องต้นสอบถามมี 5 คน ที่สมัครใจอยากกลับประเทศไทย จึงได้ส่งตัวไปยังสถานกงสุลไทยในกัมพูชา แล้ว และยังได้ตรวจพบพยานหลักฐานสำคัญคือ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบ All in one  จำนวน 68  เครื่อง

               หลังจากตรรวจค้นจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมาย ในประเทศกัมพูชาก่อน และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตามกฎหมายของกัมพูชาแล้ว จะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้ประเทศไทย

ขอบคุณที่มาคลิป : The Reporters 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts