วันนี้ (25เม.ย.67) ที่สนามบินท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี สภานที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก นักบิน และ เจ้าหน้าที่ ยังคงนำเครื่องบินคาราแวน จำนวน 6 ลำ พร้อมสารเคมี ขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวง โดยมึภารกิจเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำ และเขื่อนต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และพื้นที่ใกล้ชิด หลังจากการจ.จันทบุรี ประสบปัญหาภัยแล้ง เกษตรกรชาวสวนได้รับความเดือดร้อน
.
โดยวันนี้ ได้ทำการขึ้นบิน 5 เที่ยว มีพื้นที่เป้าหมาย ทุกอำเภอของจังหวัดจันทบุรี และบางอำเภอจะสระแก้ว
.
นายปทาธิป มีแสงเงิน นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ขณะนึ้มีการระดมเจ้าหน้าที่จากภาคเหนือ และภาคใต้ มีช่วยในการปฏิบัติการฝนหลวง ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อแก้ไขวิกฤตภัยแล้ง ที่ปีนี้ถือว่าหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา
.
“ปกติจ.จันทบุรั จะเริ่มมีฝนคกตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นต้นมา แต่ปีนี้ยังไม่มีฝนตกลงมาเลย ทำให้ขณะนี้บางพื้นที่เกิดปัญหาน้ำไม่เพียงพอ โดยเฉพาะน้ำเพื่อการกษตร”
.
หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี ยอมรับว่า สภาพอากาศที่มีความชื้นน้อย เป็นปัจจัยสำคัญของการทำฝนหลวง เพราะตะเกิดฝนตกยากและบางครั้งด็ไม่มีฝนตกลงมา ดังนั้นจึงอยากให้เกษตรกรและประชาชน ได้เข้าใจหลักการทำงานและปัจจัยของการทำให้เกิดฝนตกด้วย
.
อย่างไรก็ตามแจ้าหน้าที่ทุกคน จะทำงานงานอย่างต็มที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน และเกษตรกร ที่กำลังได้รับบาดความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง
.
สำนหรับปฎิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก ได้เข้ามาตั้งหน่วยปฎิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 โดยปีนี้มีการเพิ่มจำนวนเครื่องบินจาก 3 ลำ เป็น 6 ลำ ตามข้อสั่งการของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา หลังเดินทางมามอบนโนบายการส่งออกผลไม้ของภาคตะวันออก ในจ.จันทบุรี
