จากกรณีที่ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม มอบอํานาจให้ทนายความ แถลงข่าวฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระ เชียร์ ทิฆัมพร ดารานักแสดง และผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ ช่องดังและผู้ประกาศข่าว บรรณาธิการข่าว กับพวกรวม 10 คน ได้แก่ 1.นายจตุรงค์ จงอาษา 2.บริษัทอมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด 3.นางเมตตา อุทกะพันธุ์ 4.นางระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ 5.นายชีวพัฒน์ ณ ถลาง 6.นายนรรัตน์ ลิ่มนรรัคน์ 7.นายกำพล ปุญโสณี 8.นายศิริ บุญพิทักษ์เกศ 9.นายนภจรส ในเกษม 10.น.ส.ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และดูหมิ่นด้วยการโฆษณาหลวงพี่น้ำฝนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในพิธีการเปลี่ยนผ้าครองสรีระสังขารหลวงพ่อพูล เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 นั้น
วานนี้( 2 พ.ค.67) ที่ศาลจังหวัดนครปฐม ได้อ่านคำพิพากษา การพิจารณาเจตนาของจำเลยที่โพสข้อความ ที่จำเลยใช้นั้น ต้องพิจารณาถึงพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย มิใช่พิจารณาตามความรู้สึกของโจทก์
ซึ่งจำเลยวิพากวิจารณ์ไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นปรากฎเป็นข่าวต่อสื่อมวลชน เกี่ยวกับกิจกรรมที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ เป็นการตั้งคำถามให้สังคมโดยไม่ได้ยืนยีนข้อเท็จจริง ส่วนข้อความที่อ้างว่าเป็นผวนก็ไม่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ว่ามีความหมายอย่างไร ส่วนการเปรียบเทียบสมณศักดิ์ว่าโจทก์มีสมณศักดิ์ต่ำกว่าพระพยอม เป็นความจริง
พยานหลักฐานของโจทก์พิสูจน์ไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท หรือดูหมิ่นด้วยการโฆษณา พิพากษายกฟ้อง
ด้าน ทนายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความของนายจตุรงค์ กล่าวว่าดีใจที่ศาลเมตตาวินิจฉัย หลักธรรมเรื่องการปวารณา ซึ่งสงฆ์และฆารวาสนั้นอาจตำหนิ ติเตียน กิจวัตรของภิกษุ เรียกว่าโลติกวัชชะได้ แต่ก็ขอฝากให้ใช้ถ้อยคำติเพื่อก่อ และคำนึงให้อยู่ในกรอบของกฎหมายด้วย