วันนี้ (5 มิ.ย.67) ที่ห้องผ่าตัดโรงพยาบาลพระปกเกล้าจังหวัดจันทบุรี ทีมโรงพยาบาลพระปกเกล้า นำโดยนายแพทย์ธีรพงศ์ ตุนาค ผู้อำนวยโรงพยาบาลพระปกเกล้า พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดหัวใจ จากโรงพยาบาลศิริราช ร่วมกันผ่าตัดหัวใจ กระจกตา และไต ที่ได้รับบริจาคจากนายเฉลิมพล วิมลลักษณ์ (บู้) อายุ 36 ปี ที่ประสบประสบอุบัติเหตุตกจากที่สูง เมื่อช่วงวันที่ 1 มิถุนายน 2567 ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะสมองสมองตาย จึงได้ทำการปลูกถ่ายหัวใจและอวัยวะเพื่อต่อชีวิตและลมหายใจให้กับผู้อื่น
.
โดยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลพระปกเกล้า และโรงพยาบาลศิริราช ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อนำอวัยะทั้งหมด ส่งต่อให้สภากาดชาดไทย และนำไปปลูกถ่ายให้กับผู้รออวัยะ ณ โรงพยาบาลศิริราช โดยหลังการผ่าตัดต้องนำส่งภายใน 4 ชั่วโมง เพื่อให้การปลูกถ่ายอวัยะมีประสิทธิ โดยอวัยะทั้งหมด ถูกส่งจากโรงพยาบาลพระปกเกล้า ในเวลา 12.45 น. ซึ่งมีรถตำรวจทางหลวงนำรถโรงพยาบาลศิริราช โดยใช้ถนนสุขุมวิท เลี่ยงเมืองแกลง เข้าสู่บ้านบึง และขึ้นมอเตอร์เวย์ และสิ้นสุดที่โรงพยาบาลศิริราช
.
โดยนายแพทย์ธีรพงศ์ ตุนาค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ มีผู้มาบริจาคอวัยวะ ทั้งหมด 26 ราย ซึ่งนายเฉลิมพล เป็นรายที่ 26 และการบริจาคกระจกตา ประมาณ 95 ดวง ซึ่งถือว่าปีนี้ได้รับการบริจาคเป็นจำนวนมาก และนับว่าเป็นความโชคดีกับผู้รับที่จะได้ต่อชีวิต ซึ่งจะทำให้กลับมามองเห็นชัดเจนอีกครั้ง ทั้งนี้หลังการรับบริจาคอวัยวะแล้ว ทางโรงพยาบาลจะประสานไปยังสภากาชาดไทย เพื่อประสานหาผู้รับ ซึ่งมีหลายโรงพยาบาลทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วต้องมีความเหมาะสมกัน จากนั้นทีมผู้รับจะเดินทางมารับที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า ซึ่งต้องใช้เวลาในการนำส่งไม่เกิน 4 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ซึ่งโรงพยาบาลพระปกเกล้า เป็นทีมจัดเก็บอวัยวะของเขตสุขภาพที่ 6 ภาคตะวันออก สามารถจัดเก็บอวัยวะในส่วนของไตได้ แต่ในส่วนของหัวใจต้องให้ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช ที่มีความเชี่ยวชาญสูงในการปลูกถ่าย และนำส่งไปเปลี่ยนที่โรงพยาบาลศิริราช
.
แพทย์ธีรพงศ์ ตุนาค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า กล่าวว่า อวัยะที่นายเฉลิมพล วิมลลักษณ์ บริจาคในครั้งนี้ สามารถช่วยและต่อชีวิตผู้อื่นได้ถึง 5 คน คือ หัวใจ 1 คน ไต 2 คน และ กระจกตา 2 คน สำหรับผู้ต้องการบริจาคอวัยะสามารถติดต่อได้ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี
.
ทั้งนี้ พล.ต.ท. ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกสภ. อำนวยความสะดวก บริเวณแยกไฟแดงหรือบริเวณทางแยกต่างๆตลอดเส้นทาง รวมทั้งรถตำรวจทางหลวง และตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ร่วมนำส่ง ในครั้งนี้ด้วย