“…เผย ก่อนทำการสั่งซื้อสินค้า ลาบูบู้ และ art toy ทางผู้เสียหายถูกทางเพจให้ชำระสินค้าเต็มจำนวน แต่เมื่อถึงกำหนดวันรับของ แม่ค้าแจ้งขอเลื่อนสินค้าตลอด ครั้งนี้แม่ค้ามีการขายราคาต่ำกว่าท้องตลาด จากราคา 10,000 เหลือ 7,000 บาทเป็นต้น จึงทำการสั่งซื้อจำนวนมากมูลค่าความเสียหาย 1.5 ล้านบาท…”
วันที่ 10 มิ.ย 67 เวลา 09.30 น. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้เสียหาย ร่วมกลุ่มกันมาร้อง กองปราบฯ ขอความช่วยเหลือ มีผู้เสียหาย จากการ ซื้อสินค้า “ลาบูบู้” จากเพจ Facebook ที่ทำการสั่งซื้อสินค้า ลาบูบู้ และ art toy ทางผู้เสียหายถูกทางเพจให้ชำระสินค้าเต็มจำนวน ก่อนที่จะส่งสินค้า ซึ่งแม่ค้าจะโพสต์จองสินค้าและรอบส่งไว้ล่วงหน้า แต่เมื่อถึงกำหนดวันรับของ แม่ค้าแจ้งขอเลื่อนสินค้าตลอด และให้เหตุผลว่าสินค้าไม่มาส่ง หรือของมาไม่ครบ
ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า โดยตนตัดสินใจซื้อ เพราะเชื่อใจ และแม่ค้าโปรไฟล์ดี มีการขายของมานาน 2-3 ปี สามีเป็นแพทย์ ลูกเรียนเมืองนอก ประกอบกับก่อนหน้านี้มีการซื้อขายสินค้า Art toy อื่นๆ และส่งของตามรอบบิลปกติ แต่ครั้งนี้แม่ค้ามีการขายราคาต่ำกว่าท้องตลาด จากราคา 10,000 เหลือ 7,000 บาท ตนมองว่าสามารถเอาไปขายต่อในราคา 10,000 – 12,000 บาท ได้ ซึ่งเคยขายในราคา 8,000 บาทแล้วมีคนซื้อ สามารถทำกำไรได้ จึงทำการสั่งซื้อ มาการอง 110 กล่อง , บันนี่ 50 กล่อง , พวงกุญแจ Cry Baby 13 กล่อง เป็นต้น มูลค่าความเสียหาย 1.5 ล้านบาทในล็อตนี้ และเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ไม่สามารถติดต่อแม่ค้าได้ เนื่องจากถึงเวลานัดหมายแล้วแม่ค้าไม่ส่งของ โดยได้ทักแม่ค้าไป แม่ค้าเข้ามาอ่านแต่ไม่ตอบกลับ การโอนเงิน ได้โอนไปยังแม่ค้าและสามี ซึ่งมีผู้เสียหายบางราย เครียดถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย โดยได้นำเงินเก็บมาใช้ลงทุนในครั้งนี้
ซึ่งเคยมีผู้เสียหายรายอื่นได้ไปรับของ ที่บ้านของแม่ค้าคนดังกล่าว ซึ่งแม่ค้าคนดังกล่าวมีบ้านอยู่ที่หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านสมุทรปราการ แต่ก็ยังมาหลอกคนอื่น ก็ยังมีผู้เสียหายได้บุกไปที่หน้าร้านอยู่ที่ ชั้น 5 เมกะพลาซ่าสะพานเหล็ก โดยมีการเปิดหน้าร้านจริงและมีสินค้าจริง และขายดีมาก แต่จากการพูดคุยกับพนักงานในร้านบอกว่า จะเซ้งร้านแล้ว จึงเกิดความสงสัยว่า ทำไมจึงต้องเซ้งร้านเพราะขายดี และลูกค้าเยอะ
ซึ่งล่าสุด เมื่อเช้าแม่ค้ามีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คว่า จะทยอยคืนเงิน หลังจากกลุ่มผู้เสียหายมีการเคลื่อนไหวว่าจะมาแจ้งความ โดยแม่ค้าพยายามที่จะประสานว่าจะทยอยคืนเงิน แต่จำนวนที่คืนไม่ได้ตามยอดที่จ่ายไป เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนกว่า 140 คน แต่กลับทยอยคืนเพียง 5 คน ทุกคนจึงตัดสินใจนำหลักฐานมาแจ้งความในวันนี้
