วันนี้ (12 มิ.ย 67) เวลา 11 .00 น. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ให้ตรวจสอบ ภาพยนตร์เรื่อง อำนาจ ศรัทธา อนาคต หรือ Breaking The Cycle ว่า ผู้ให้ทุน ผู้กำกับ นักแสดงนำ โรงภาพยนตร์ อาจจะกระทำผิด ตามมาตรา 116 หรือไม่
เต้ มงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า จากประเด็นที่มีการ ฉาย ภาพยนตร์เรื่อง อำนาจ ศรัทธา อนาคต หรือ Breaking The Cycle จึงทำให้ตน ได้เข้าไปดู วันที่ 7 มิถุนายน 67 เวลา 14.00 น. โรงหนัง เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ โดย ตนมองว่า มีสิ่งผิดปกติ การเล่าเนื้อหาของภาพยนตร์ ที่เริ่มเล่าตั้งแต่ ปี 2557 ถึงปี 2563 พูดถึงการยึดอำนาจ ในสมัยของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งในภาพยนตร์ไม่ได้พูดถึงสาเหตุของการยึดอำนาจ และไม่ได้พูดถึงเรื่องของพ.ร.บ. นิรโทษกรรม ปี 2556 ก่อนที่จะมีมวลชน ออกมาขับไล่ รัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คือ ออก พ.ร.บ สุดซอย และในภาพยนตร์ จะโชว์คุณธนาธร ให้เป็นความหวังของคนไทยทั้งชาติ ถ้าบุรุษของประชาธิปไตย ซึ่งตนมองว่าเป็นข้อมูลเพียงทางเดียว ซึ่งในภาพยนตร์ไม่ได้บอกรายละเอียด ว่ายุบพรรคอนาคตใหม่ด้วยสาเหตุอะไร พูดแค่ในแง่มุมของ การเสนอแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีในปี 2562 ในเนื้อหาเป็นการพูดในเชิงบวกในด้านเดียว พูดให้ครอบคลุม ถึงเนื้อหา ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนและเยาวชนที่เข้าไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ให้เข้าใจว่า คุณธนาธร คุณ ช่อ พรรณิกา และพรรคอนาคตใหม่ จนมาถึงพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน เป็นความหวังเดียวของชาติ
นายมงคลกิตต์ มองว่า หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำสังคมสับสน ควรลงทุน และให้ข้อมูลที่เป็นจริงครบทุกด้านกว่านี้ ตนจึง อยากให้ ตำรวจสอบสวนกลาง ยื่นตรวจสอบ ภาพยนตร์เรื่องนี้ และเชิญนักแสดง นำของภาพยนตร์ ผู้กำกับ และแม้กระทั่งโรงภาพยนตร์ ที่ไม่ตรวจสอบและยังให้ฉายภาพยนตร์เรื่องนี้
สุดท้าย นายมงคลกิตต์ บอกว่า หลังจากที่ได้เข้าร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ในการเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และ ได้มีการลงพื้นที่ภาคใต้ ตามที่ได้รับมอบหมาย และ ในปี 2569 ตนวางแผน ว่าจะลงเลือกตั้งผู้ว่า กรุงเทพมหานคร และหวังว่าประชาชนจะเลือกให้ตนไปรับใช้ และทำหน้าที่ ของผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ส่วนกลยุทธ์ในการฟื้นศรัทธา ให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาได้รับความนิยมจะเป็นอย่างไรนั้น นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับ นายทักษิณ ชินวัตร ว่านายทักษิณจะขยับไปในทิศทางไหน ซึ่งกังวลว่า ฝ่ายความมั่นคงอาจจะมีการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่