“….จีนยังตั้งเป้าอย่างชัดเจนว่า จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นชาติที่แข็งแกร่งทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีระดับแนวหน้าของโลกภายในปี2035 เพื่อการนี้ สิ่งที่จีนทำคือ ระดมสรรพกำลังครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งแบบ “ทำกันทั้งประเทศ” คือมิใช่ต่างคนต่างทำ แต่ทุกฝ่ายกำหนดเป้าหมายร่วมกัน โดยอิงอยู่กับเป้าหมายยุทธศาสตร์ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนนำเสนอ จีนจะกลายเป็นประเทศทันสมัยรอบด้าน โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้กล่าวต่อที่ประชุมใหญ่ร่วมของสภาวิทยาศาสตร์ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา เรียกร้องให้นักวิทยาศาสตร์จีนเร่งพัฒนาโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาฐานราก สร้างความรู้ใหม่จากศูนย์ในระดับแถวหน้าของโลกในทุกมิติ เพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างความทันสมัยแบบจีนให้สำเร็จ สามารถฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีนอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง จากวันนี้ถึงปี2035 ก็เพียง11ปี ถ้าเป็นประเทศอื่นก็อาจจะยังง่วนอยู่กับการแก้ปัญหาคาราคาซัง ดิ้นขลุกขลักอยู่ในวิกฤตหรือความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคม…”
ระบบรวมพลังทั้งชาติ 举国体制
จีนวันนี้ มีเครื่องทดลองดวงอาทิตย์เทียม”โทคาแมค” 4 ตัว แต่ละตัวมีผลการทดลองในระดับที่จะเป็นบันไดก้าวไปสู่การสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานจากดวงอาทิตย์เทียมทั้งสิ้น
ทำให้จีนอยู่ในฐานะที่จะเป็นชาติแรกในการสร้างระบบพลังงานสะอาดที่ไม่มีวันหมดสิ้นได้ภายในปีคศ.2035
ไม่เพียงเท่านั้น จีนยังตั้งเป้าอย่างชัดเจนว่า จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นชาติที่แข็งแกร่งทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีระดับแนวหน้าของโลกภายในปี2035
เพื่อการนี้ สิ่งที่จีนทำคือ ระดมสรรพกำลังครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งแบบ “ทำกันทั้งประเทศ”ที่ภาษาจีนเรียกว่า”จวี่กั๋วถี่จื้อ”举国体制“แบบใหม่หรือ新型举国体制”ซินสีงจวี่กั๋วถี่จื้อ” คือมิใช่ต่างคนต่างทำ แต่ทุกฝ่ายกำหนดเป้าหมายร่วมกัน โดยอิงอยู่ กับเป้าหมายยุทธศาสตร์ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนนำเสนอ
เป้าหมายยุทธศาสตร์ที่ว่าก็คือการสร้างความทันสมัยแบบจีนหรือ”จงกั๋วซื่อเสี้ยนไต้ฮว่า”中国式现代化ให้สำเร็จ โดยตั้งเป้าไว้ว่า เมื่อถึงปีคศ.2035 จีนจะกลายเป็นประเทศทันสมัยรอบด้าน ซึ่งทั้งหมดนั้นจะปรากฏเป็นจริงได้ก็ด้วยอานุภาพของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยียุคใหม่ ทั้งดวงอาทิตย์เทียม ควอนตัมคอมพิวเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ การสำรวจอวกาศ ระบบการสื่อสาร 6Gที่จะนำไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การค้าและบริการ ตลอดจนวิถีชีวิตของประชาชนทั่วไป
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้กล่าวต่อที่ประชุมใหญ่ร่วมของสภาวิทยาศาสตร์
จีนกับสภาวิศวกรรมศาสตร์จีนเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา เรียกร้องให้นักวิทยาศาสตร์จีนเร่งพัฒนาโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาฐานราก สร้างความรู้ใหม่จากศูนย์ในระดับแถวหน้าของโลกในทุกมิติ เพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างความทันสมัยแบบจีนให้สำเร็จ สามารถฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีนอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
โดยอาศัยความร่วมมือกันทุกฝ่ายในระดับ”ทั้งชาติ”ที่เป็นจุดแข็งของสังคมจีนในระบอบสังคมนิยมตลอดมา
ในความร่วมมือกันทั้งชาติแบบใหม่นี้ จะต้องมุ่งทำการศึกษาวิจัยในจุดที่สามารถพลิกกรอบความรู้ความเข้าใจใหม่ เกิดความสำเร็จชนิดที่ยังไม่เคยมีใครทำได้ กระตุ้นให้เกิดการนวัตกรรมใหม่ๆไปทุกมิติ โดยดำเนินไปบนฐานการเชื่อมประสานกระบวนการนวัตกรรมเข้ากับกระบวนการผลิต เชื่อมประสานสถาบันการศึกษาเข้ากับฐานการผลิต และผลิตบุคลากรคุณภาพสูงออกมาอย่างไม่ขาดสาย
โดยทั้งหมดนี้จะต้องปรากฏผลรูปธรรมภายในปีคศ.2035
จากวันนี้ถึงปี2035 ก็เพียง11ปี ถ้าเป็นประเทศอื่นก็อาจจะยังง่วนอยู่กับการแก้ปัญหาคาราคาซัง ดิ้นขลุกขลักอยู่ในวิกฤตหรือความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคม
แต่สำหรับจีน มันเป็นอีกช่วงหนึ่งของการก้าวยาวๆไปข้างหน้า ภายหลังจากที่พวกเขาได้ก้าวมาแล้วอย่างรวดเร็วนานกว่าครึ่งศตวรรษ ด้วยระบบรวมพลังทั้งชาติ ที่เรียกกันว่า”จวี่กั๋วถี่จื้อ”举国体制