วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 4, 2024
หน้าแรกท้องถิ่นนายกเมืองพัทยา ร่วมกับเจ้าท่าฯ เอาจริง! เดินหน้าจัดระเบียบโซนนิ่งการจอดเรือ เตรียมคุมเข้มบังคับใช้กฎหมาย เพื่อความปลอดภัยและภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

Related Posts

นายกเมืองพัทยา ร่วมกับเจ้าท่าฯ เอาจริง! เดินหน้าจัดระเบียบโซนนิ่งการจอดเรือ เตรียมคุมเข้มบังคับใช้กฎหมาย เพื่อความปลอดภัยและภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

(2 ก.ค.67) เวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุม 131 ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมการจัดระเบียบการจอดเรือ พร้อมด้วยนายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา โดยมีทีมเลขานุการนายกเมืองพัทยา ที่ปรึกษาฯ ประธานคณะทำงานฯ ประธานสภาเมืองพัทยา ผู้ช่วยเลขาประธานสภาเมืองพัทยา หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อหารือแนวทางการจัดระเบียบโซนนิ่งการจอดเรือในพื้นที่เมืองพัทยาให้เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และเกิดภาพลักษณ์ที่ดี

ทั้งนี้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวหลังการประชุมว่า หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง เมืองพัทยาได้มีการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในทุกด้าน โดยได้มีการกำหนดพื้นที่ในการจัดระเบียบโซนนิ่งของการประกอบการของเรือแต่ละประเภทอยู่แล้ว หลังจากนั้นมาก็ได้มีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เมืองพัทยาได้ดำเนินการไว้ ในการนี้เมืองพัทยาจึงได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยามาร่วมประชุมหารือแนวทางการจัดระเบียบฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเรา ซึ่งก็ได้ข้อสรุปว่า หลังจากนี้จะมีการเชิญผู้ประกอบการทางทะเลมาร่วมประชุมชี้แจงซักซ้อมทำความเข้าใจในแนวทางที่เมืองพัทยาและกรมเจ้าท่าได้กำหนดไว้ ซึ่งจะให้ระยะเวลาสั้นๆ ในการดำเนินการให้ถูกต้องตามรายละเอียดต่างๆ ที่เมืองพัทยากำหนดไว้ เช่น หลังจากเขตว่ายน้ำไปแล้วจะเป็นเขตของเจ็ตสกี บานาน่าโบ๊ท และเรือสปีดโบ๊ท ไม่อยากให้มีการทับซ้อนกัน เนื่องจากปัจจุบันพบว่าเรือสปีดโบ๊ทมักจะเข้ามาใกล้เขตว่ายน้ำซึ่งจะเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยวได้ รวมทั้งเรือเจ็ทสกีที่จอดเกยชายหาดแล้วใช้ผ้าคลุมไว้ค้างคืน ซึ่งตรงนี้เมืองพัทยาจะร่วมกับกรมเจ้าท่าในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เราพยายามที่จะจัดระเบียบต่างๆ ให้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาได้เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้การท่องเที่ยวทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการทางทะเล หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ มีการดำเนินการให้มีการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนควบคู่ไปด้วย ดังนั้นสิ่งใดที่ไปกระทบสิทธิ์ของผู้อื่นก็ต้องดำเนินการด้วยการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างผาสุข ท้ายที่สุดแล้วทุกคนก็จะมีรายได้ร่วมกัน และเพื่อภาพลักษณ์ที่ดี ให้สมกับที่เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts