พบรายชื่อลูกค้าประจำเขียนติดไวท์บอร์ดหลายราย และน้ำกระท่อมปรุงแล้วอีกกว่า 20 ขวด
เมื่อเวลาประมาณ 13:00 น. วันนี้ ( 3 กรกฎาคม 2567) จากการที่ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มีนโยบายเข้มงวดกวดขันผู้จำหน่ายน้ำกระท่อมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี หลังมีรายงานว่ามีเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี นิยมบริโภคน้ำกระท่อมเป็นจำนวนมาก จึงให้ฝ่ายปกครองอำเภอต่าง ๆ เข้มงวดกวดขันดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายน้ำกระท่อมในพื้นที่อย่างเคร่งครัด ซึ่ง นายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอศรีราชา ได้มอบหมายให้นางสาวชิดชนก ไพบูลย์เวชสวัสดิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอศรีราชา พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนร้อย.อส.อ.ศรีราชาที่ 2 และสมาชิกชมรมราชสีห์พิทักษ์ราษฎร์ ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายน้ำกระท่อมชื่อร้าน “ใบกระท่อมชุมพร” ไม่มีบ้านเลขที่ หมู่ที่ 3 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยให้สายลับเข้าไปทำการล่อซื้อน้ำกระท่อมจำนวน 100 บาท พร้อมถ่ายสำเนาธนบัตรไว้เป็นหลักฐานด้วย หลังจากนั้นจึงเข้าดำเนินการตรวจสอบพบ นางสาวกรรณิการ์ จันทสิทธิ์ อายุ 23 ปี หรือ แนน (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว โดยขายร่วมกับแฟนหนุ่ม แต่ระหว่างการจับกุม แฟนหนุ่มไม่ได้อยู่ที่ร้าน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจและพบเงินที่ทำการล่อซื้ออยู่ในลิ้นชักเก็บเงิน นางสาวแนน จึงยอมจำนนด้วยหลักฐาน ยอมรับสารภาพและพาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบร้านดังกล่าว
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบน้ำกระท่อมปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติต่าง ๆ บรรจุขวดน้ำเปล่า ขนาด 1.5 ลิตร ใส่ไว้ในถังน้ำแข็งจำนวน 23 ขวด วางอยู่ภายในร้านเพื่อจำหน่ายในราคาขวดละ 100 บาท รวมทั้งพบอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับการต้มน้ำกระท่อม บัตรสะสมคะแนนของร้าน ระบุว่า ซื้อ 10 ขวด แถม 1 ขวด ทั้งหมด 56 ใบ รวมทั้งรายชื่อลูกค้าเขียนอยู่บนกระดานไวท์บอร์ดติดข้างผนังห้อง จึงยึดไว้เป็นของกลาง
หลังจากนั้นจึงได้ควบคุมตัว นางสาวแนน นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร ศรีราชาดำเนินคดี ในความผิดฐาน “ฝ่าฝืนข้อกำหนดอาหารที่ห้ามผลิตหรือจำหน่าย ตามมาตรา 6 (8) แห่งพระราชบัญญัติอาหารพ.ศ 2522 ประกอบข้อ 2 ลำดับ 52 แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 424 พ.ศ 2564 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 430 พ.ศ 2564 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2564 โดยต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปีและปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 20,000 บาท ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ 2522 ตามกฎหมายต่อไป
