กรณีคนสนิท “สมเด็จพระวันรัต” ยักยอกทรัพย์ พึงทำความเข้าใจก่อนว่า เจ้าพระคุณสมเด็จเป็นพระมหาเถระที่เคร่งในพระวินัย เงินทองทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของ ไวยาวัจกร ที่พระคุณสมเด็จมอบหมายซึ่งเป็นไปตามพระวินัย เหตุใดเกิดการยักยอกทรัพย์ได้…?!?
เมื่อวานก่อน สื่อมวลชนรายงานข่าวใหญ่ที่ทำให้ตกตะลึงกันนั่นคือข่าวการที่ตำรวจ อปง. เข้าทำการจับกุมและยึดทรัพย์ ลูกศิษย์ของสมเด็จพระวันรัตวัดบวร ในข้อหายักยอกทรัพย์ เป็นจำนวนมากถึง 200 ล้านบาท ข่าวดังกล่าวนี้อาจทำให้กระทบต่อพระเกียรติและความบริสุทธิ์ของวัดบวร และอาจกระทบชื่อเสียงของวัดบวรด้วย ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องนี้
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าจำนวนเงินที่มีการยักยอกรวมถึงทรัพย์สินหลายรายการนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าพระคุณสมเด็จ แต่เป็นทรัพย์สินของวัดที่อยู่ในความดูแลของเจ้าพระคุณสมเด็จ ดังนั้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเจ้าพระคุณสมเด็จไม่ได้มีทรัพย์สินส่วนตัวดังที่เป็นข่าว
เจ้าพระคุณสมเด็จเป็นพระมหาเถระที่เคร่งในพระวินัยไม่จับตัองเงินทอง #เงินทองทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของไวยาวัจกร ที่จะพระคุณสมเด็จมอบหมายซึ่งเป็นไปตามพระวินัย ดังนั้นบรรดาทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องจึงอยู่ในความครอบครองของไวยาวัจกร ซึ่งก็คือผู้ต้องหาในคดีนี้ จึงควรเข้าใจในขั้นนี้ว่า ทรัพย์สินที่มีการกล่าวหาว่ายักยอกนั้น เป็นเรื่องที่ลูกศิษย์ซึ่ง เป็นไวยาวัจกรเป็นผู้ครอบครองดูแลและจัดการ การจัดการผิดถูกเป็นเรื่องความรับผิดชอบของไวยาวัจกรนั้น
จำนวนเงินที่เกี่ยวข้องเกือบทั้งหมด เป็นเรื่องเงินในการก่อสร้างศาสนสถานสำคัญแห่งหนึ่งซึ่งพระคุณสมเด็จได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ทำการก่อสร้าง เพื่อประโยชน์ในพระพุทธศาสนา การก่อสร้างนี้มีวงเงินประมาณ 80 ล้านบาท และเงินดังกล่าวก็อยู่ในความดูแลจัดการของไวยาวัจกร ซึ่งมีหน้าที่จัดการให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในการก่อสร้างให้สำเร็จลุล่วง
นอกจากเงิน 80,000,000 บาท ดังกล่าวแล้วยังมีวงเงินอีกสองสามยอด ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบูรณะก่อสร้างและค่าใช้จ่ายในกิจการของวัด และอยู่ในหน้าที่ดูแลรับผิดชอบของเจ้าพระคุณสมเด็จ ซึ่งเป็นหน้าที่ของไวยาวัจกรในการครอบครองดูแลรักษาและจัดการให้เป็นไปโดยถูกต้อง
ดังนั้นถ้าเงินและทรัพย์สินดังกล่าวถูกจัดการไปโดยไม่ถูกต้องมีการนำไปเป็นประโยชน์ส่วนตนก็ดีเสียหายประการใดใดก็ดี เป็นความรับผิดชอบของ ไวยาวัจกรซึ่งอาจต้องรับผิดทางอาญาและทางแพ่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าพนักงานตำรวจกองปราบและ ปปง. กำลังดำเนินการและชำระสะสางเรื่องนี้ให้ถูกต้อง
ในเบื้องต้นนี้กล่าวได้ว่า วัดบวรก็ดี เจ้าพระคุณสมเด็จก็ดี ไม่ได้ทำสิ่งใดผิดหรือเสียหาย กรณีเป็นเรื่องของไวยาวัจกรโดยเฉพาะ ซึ่งเชื่อว่าเจ้าพนักงานตำรวจและ ปปง. จะสามารถสะสางเรื่องนี้ได้อย่างหมดจดงดงาม เพราะชื่อเสียงเกียรติคุณของวัดบวร และเจ้าพระคุณสมเด็จนั้นเป็นเรื่องสำคัญ คาดว่าเรื่องนี้จะเสร็จสิ้นในไม่ช้า
ข้อเท็จจริงที่ยังไม่ชัดเจนก็คือไวยาวัจกรได้ทำบัญชีรับจ่าย เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดตามหน้าที่ที่ต้องทำหรือไม่ และถ้าทำแล้วก็ยังต้องตรวจสอบดูว่าที่ทำนั้นถูกต้องกับความเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งไม่นานก็คงทราบ ดังนั้น สาธุชนทั้งหลายจึงเข้าใจเรื่องนี้โดยนัยยะที่กล่าวมานี้เถิด
ผมเองพยายามผลักดันให้ทุกวัดจัดทำบัญชีรายได้รายจ่าย ทรัพย์สินหนี้สินให้ถูกต้องตามหลักการบัญชีมาช้านานแล้วแต่ไม่มีใครเอาด้วย มีแต่วัดสร้อยทองวัดเดียวซึ่งเป็นสำนัก พระปริยัติธรรมใหญ่ที่สุดวัดหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่จัดทำบัญชีได้อย่างถูกต้องตลอดมา เพราะเจ้าอาวาสองค์กรโน้นท่านต้องการทำให้ถูกต้อง มาขอให้ผมช่วยผมก็ช่วยประสานงานให้บริษัทธรรมนิติการบัญชีไปช่วยเหลือจัดวางระบบและทำบัญชีโดยถูกต้องตลอดมาจึงไม่เคยมีปัญหา
เรื่องนี้กองปราบเป็นเจ้าของเรื่อง มีภารกิจสำคัญที่ต้องชำระสะสางให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อธำรงรักษาเกียรติวัดบวรและเจ้าประคุณสมเด็จ
รัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาควรแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการให้เป็นไปโดยถูกต้อง
ขอบคุณที่มา : www.nationtv.tv