“…เผยโฉม รถหรู บางส่วนที่อดีตไวยาวัจกร ลูกศิษย์สมเด็จพระวันรัต หลังแปลงเงินสดที่ยักยอกจากวัดมาเป็นสินทรัพย์ ใช้ชีวิตโก้หรู…”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเงินวัดที่นายเนย ลูกศิษย์คนสนิทรายหนึ่ง ที่มีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัตและเคยได้รับการแต่งตั้งเป็นไวยาวัจกร ทำการยักยอกหรือลักทรัพย์ออกมานั้น ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยการแปลงเป็นทรัพย์สินมีค่าต่างๆ อาทิ รถยนต์หรู ยี่ห้อเบนลี่ ยี่ห้อปอร์เช่ ยี่ห้อวอลโว่ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ยี่ห้อเล็กซัส , เงินสด ,เงินฝากในบัญชี , อสังหาริมทรัพย์ , กระเป๋าแบรนเนม , พระเครื่องทองคำ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ได้ทำการตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับนำมาเก็บรักษาการไว้ยังที่ทำการกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการประสานสำนักงานป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน เข้าดำเนินการตรวจสอบ
ลูกศิษย์คนสนิทของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารที่มรณภาพไป ยักยอกทรัพย์ของวัดบวรฯ และ วัดสาขารวมกว่า 200 ล้านบาท แม้ตอนนี้ จะจับกุมตัว นายเนย ลูกศิษย์คนสนิทได้แล้ว แต่พบว่าทรัพย์สินถูกถ่ายเทไปที่คนใกล้ชิดของนายเนยแล้ว ล่าสุด “พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช” ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เตือนหากบริสุทธิ์ใจ ให้กลุ่มคนใกล้ชิดนายเนย นำทรัพย์สินมาคืน ไม่เช่นนั้น จะโดนดำเนินคดีด้วย
นายเนย ถือเป็น ลูกศิษย์คนสนิทของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นคนใกล้ชิดที่ได้รับความไว้วางใจ ทั้งขับรถให้ ติดตามอย่างใกล้ชิด หรือ แม้แต่เวลาสื่อหรือใครจะเข้าพบสมเด็จพระวันรัต นายเนยจะทำหน้าที่จัดคิวให้ ตามพฤติกรรมที่ปรากฏ นายเนย ใช้อุบายหลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ซึ่งอาพาธลงลายมือชื่อในใบถอนเงินโดยเป็นการลงลายมือชื่อ แบบไม่ใช่ใส่จำนวนเงิน
จากนั้น นายเนย นำใบถอนเงินมาใส่จำนวนเงินที่ต้องการเอง ก่อนจะนำไปถอนออกมา บางครั้งจะให้ลูกศิษย์อีกคน ไปถอนเงิน และสั่งจ่ายเป็น แคชเชียร์เช็ค ชื่อนายเนย จากการตรวจสอบพบว่า เงินที่ถูกถอนเป็นเงินจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดสาขาของวัดบวรฯ และตอนนี้วัดอยู่ระหว่างการก่อสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์พัฒนาวัด คนที่จะถอนเงินได้มีแค่ สมเด็จพระวันรัต เท่านั้น
โดยพฤติกรรมแบบนี้ ตำรวจสืบทราบว่า นายเนย ทำมาตั้งแต่ พฤศจิกายน 2564 ต่อเนื่องมาจนถึง ต้นเดือน มกราคม 2565 รวมเงินที่ตรวจพบว่าโอนจากบัญชีวัดเข้าบัญชีนายเนย เฉพาะเงินสด 80 ล้านบาท ทั้งหมดนี้เป็นที่มาของการจับกุมนายเนย เมื่อ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จากการตรวจค้นบ้าน พบทรัพย์สินมากมาย เช่น รถยนต์หรู ยี่ห้อเบนท์ลีย์ ปอร์เช่ วอลโว่ บีเอ็มดับเบิลยู เล็กซัส เงินสด และเงินฝากในบัญชี อสังหาริมทรัพย์ กระเป๋าแบรนด์เนม พระเครื่องทองคำ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้าน ตอนนี้อยู่ระหว่างการให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตรวจสอบที่มาของทรัพย์สิน
เบื้องต้น นายเนย ยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่สมเด็จพระวันรัตมอบให้ไว้ใช้จ่ายส่วนตัว ไม่ได้ฉ้อโกงมา แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน เพราะ ตรวจสอบพบว่า เงินในบัญชีส่วนตัวของนายเนย ถูกโอนมาจากบัญชีวัด เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหา ประกอบด้วย ฉ้อโกง ลักทรัพย์ ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม และฟอกเงิน
แหล่งข่าวที่รู้จักกับนายเนย เปิดเผยว่า นายเนยมีพฤติกรรมใช้เงินเก่ง อู่ฟู่ ทั้งที่ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนไม่ได้มีเงินมากนัก แต่ช่วงหลังใช้เอง เฉลี่ย 3 วัน 1 ล้านบาท และมักจะเลี้ยงเพื่อนฝูง เวลาไปกินข้าว หรือ ทำกิจกรรมร่วมกัน นอกจากนี้ยังมักซื้อของใช้ราคาแพง แหล่งข่าวที่รู้จักกับนายเนย ยังบอกอีกว่า พฤติกรรมเช่นนี้ของนายเนยมีมาก่อน พฤศจิกายน 2564 ซึ่งถ้าหากไล่ดูภาพในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของนายเนย ก่อนที่จะลบแอคเคาท์ทิ้งไป ก็พบว่า นายเนยมีพฤติกรรมตามที่แหล่งข่าวบอกมาก่อน พฤศจิกายน 2564 จริง จนอาจสงสัยได้ว่า ความผิดที่ทำ น่าจะมีมาก่อน ช่วงที่ตำรวจตรวจพบ
เจออีก! ยักยอกเงิน 2 วัดสาขาใน จ.ตราด
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยอมรับว่า จากการตรวจสอบตอนนี้ ยังไม่สามารถขยายผลไปที่บุคคลอื่นนอกจากนายเนยได้ แต่พบว่า มีทรัพย์สินบางส่วนของนายเนยถูกยักย้ายถ่ายเทให้บุคคลใกล้ชิด พล.ต.ท.จิรภพ ฝากเตือนว่าให้นำทรัพย์สินมาคืนหากบริสุทธิ์ใจ เพราะหากไม่คืนจะเข้าข่ายมีความผิดฐานฟอกเงินด้วย
นอกจากวัดที่ อยุธยา ที่ตรวจสอบว่ามีเงินหายไป ล่าสุดยังพบว่า นายเนย เข้าข่ายยักยอกเงิน วัดสาขาอีก 2 แห่ง รวม 90 ล้านบาท คือ วัดรัตนวราราม และ วัดคีรีวิหาร ในจ.ตราด ซึ่งเป็นบ้านเกิดของสมเด็จพระวันรัต แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
ด้าน พล.ต.ต. เขมรินทร์ หัสศิริ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์พิเศษ พีพีทีวี ระบุว่า ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบความเชื่อมโยง การเงิน ของ นายเนย กับ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ และ พระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ็ค รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายกว่า มีเส้นทางการโอนเงิน การถ่ายเททรัพย์สิน ไปไว้ที่เดียวกัน
พล.ต.ต. เขมริรินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่า ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้อีกหลายคน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนทรัพย์สินที่ นายเนย ยักยอกไปบางส่วนไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว
“อ.จตุรงค์” ชี้คนในวัดไม่เคยสงสัย “เนย” ยักยอกเงิน
ด้าน นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา ให้ข้อมูลว่า เคยเจอ นายเนย ตามงานบ้าง แต่ไม่เคยพูดคุย เพราะส่วนใหญ่ นายเนย มักจะพูดคุยกับพวกเศรษฐี ไฮโซ และถ้าหากดูภายนอกเรียบร้อย สมถะ ใส่เสื้อขาว สะพานย่าม แต่ในโลกโซเชียลเหมือนคนละคน เพราะแต่ละรูปที่โพสต์จะชอบอวดความหรูหรา ทั้งรถสปอร์ต กล้องถ่ายรูปหลักหลายแสนบาท และที่ผ่านมาก่อนจะเกิดเรื่องคนที่วัดไม่เคยเอะใจ เพราะถือว่า เป็นคนของสมเด็จพระวันรัต
อาจารย์จตุรงค์ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่เรื่องยักยอกเงินแดงขึ้น เพราะ พระครูแจ๊ว เจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมมาราม เข้ามารับช่วงต่อหลังจากสมเด็จพระวันรัต มรณภาพ ตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่า เงินในบัญชีของวัดเหลือ 0.00 บาท พระครูแจ๊ว จึงติดต่อตุลาการ 1 คน ให้พามาแจ้งความที่กองปราบ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้มีการตรวจสอบ และพบว่า นายเนย ถอนเงินออกไป 80 ล้านบาท เกลี้ยงบัญชี
อาจารย์จตุรงค์ ยังพบอีกว่า นายเนย พยายามจะหาเงินมาคืน จึงนำชื่อของสมเด็จพระวันรัต ไปอ้างกับเจ้าสัวคนหนึ่ง ว่า สมเด็จพระวันรัตจะสร้างโรงเรียนสอนภาษาบาลี เจ้าสัวคนนี้จึงเซ็นเช็คให้จำนวน 27 ล้านบาท รวมกับเงินของ นายเนย 3 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท ก่อนจะนำมาคืนให้วัดกับวัดบวรฯ แต่จำนวนเงินที่ นายเนย เอาไปมากกว่านั้น
ส่วนที่ นายเนย ปฏิเสธว่า เงินที่ได้มาเป็นเงินที่สมเด็จพระวันรัตมอบให้ เพื่อใช้จ่ายส่วนตัว ไม่ใช่เงินที่ยักยอกจากวัด อาจารย์จตุรงค์ ระบุว่า เงินในบัญชี ของสมเด็จพระวันรัตทั้งหมดมีวัตถุประสงค์ เพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น เพื่อการศึกษาบาลี การผู้ป่วยยากไร้ ไม่ได้มีไว้เพื่อโอนให้ใคร เชื่อว่าหากตำรวจนำการใช้จ่ายเงินในช่วงที่สมเด็จพระวันรัต มีสติปัญญาครบถ้วน มาเปรียบเทียบกับช่วงที่อาพาธ ก็จะเห็นความผิดปกติมากขึ้น
ทั้งนี้ อาจารย์จตุรงค์ ขอให้ ผู้ที่เคยรับของ หรือ รับเงินจาก นายเนย โดยเฉพาะแฟนหนุ่มของนายเนย ซึ่งเป็นลูกของผู้มีนามสกุลดัง และมีตำแหน่งใหญ่ ให้รีบนำทรัพย์สินมาคืน และแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้พ้นข้อกล่าวหา
สำหรับบรรยากาศที่วัดบวรนิเวศวิหาร ที่อาคาร 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร ยังมีการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพสมเด็จพระวันรัต ซึ่งมีประชาชนทยอยเดินทางมา เพื่อร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรมศพในช่วงเย็นนี้ โดยแหล่งข่าวในวัดบวรฯ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า ขณะนี้กองปราบกรามได้ขอให้วัดบวรฯ งดให้ข่าวกับสื่อมวลชน กรณีที่ลูกศิษย์ใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัต ยักยอกเงินของวัด เนื่องจากกังวลว่า จะเสียรูปคดี บอกเพียงสั้นๆว่า ได้ทราบข่าวว่า มีการยักยอกเงินของวัด ก็เมื่อตอนที่เป็นข่าวแล้ว
