เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 5 เม.ย. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.
นายสมบัติ (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี วิศวกรระดับ10การไฟฟ้าภูมิภาค พร้อม น.ส.พูลทรัพย์ บูรณ์โพธิ์คา อายุ 69 ปี พี่สาว เจ้าของสวนมะละกอในอ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นำหลักฐานเป็นสำเนาสลิปโอนเงินธนาคารเกือบร้อยรายการ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ประภาส วังงาม สว.กก.4 บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความเอาผิด น.ส.นก (นามสมมุติ) หญิงสาวรายหนึ่ง ที่ ทำงานที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หลังถูกหลอกลวงเอาเงินเป็นจำนวนเงินกว่า 5 ล้านบาท
นายสมบัติ กล่าวว่า รู้จักกับ น.ส.นก มาประมาณ 30 ปี ในฐานะเพื่อนร่วมงานการไฟฟ้า แต่คนละภาคส่วน และ ในฐานะสาวคนสนิท โดยตัว น.ส.นก ทำงานอยู่หน้าห้องผู้ช่วยของผู้ว่าการ กฟภ. ต่อมา ตนได้ถูกย้ายไปประจำอยู่ที่ จ.ลำพูน จึงเริ่มห่างกันไปแต่ก็ยังติดต่อกันเรื่อยมา กระทั่งเดือน มี.ค. 2563 น.ส.นก ได้ติดต่อมาหาก่อนบอกเล่าปัญหาชีวิตที่กำลังเผชิญ หลายอย่าง อาทิ เลิกกับสามีต้องใช้ชีวิตอยู่กับลูก 2 คน รวมถึงไปกู้เงินนอกระบบ จนถูกแก๊งเงินกู้ข่มขู่อุ้มทำร้าย และกำลังจะถูกศาลฟ้องคดีอื่นกลัวว่าจะกระทบกับงาน จึงอยากขอความช่วยเหลือด้านการเงิน
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า ด้วยความคุ้นเคยกันมากว่า 30 ปี จึงหลงเชื่อยอมรับปากที่จะช่วยเหลือ โดย น.ส.นก ได้ให้ตนไปกู้เงินสหกรณ์ของ กฟภ. จำนวน 2 ล้านบาท รวมถึงหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้องคนอื่นๆมาให้อีกหลายครั้งในข่วงระยะเวลาตลอด 2 ปี รวมเป็นเงินกว่า 5 ล้านบาท แต่ทุกครั้งที่ได้เงิน น.ส.นก ก็จะเงียบหายไป โดยจะติดต่อกลับมาเฉพาะช่วงที่เดือดร้อนเพื่อให้ช่วยหาเงินให้เพียงเท่านั้น กระทั่งเมื่อถึงกำหนดคืนเงิน น.ส.นก กลับเริ่มบ่ายเบี่ยง จึงเชื่อว่าถูกหลอกประกอบกับเรื่องดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องมาแบกรับภาระหนี้สินจากการถูกหลอกหลายล้านบาท จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดังกล่าว
“ยืนยันว่าที่ให้ยืมเงินให้เพราะเชื่อใจ สงสาร ไม่ใช่เพราะเสน่ห์หา หรือ มาจากเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด ” นายสมบัติ กล่าวทิ้งท้าย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ไง้ก่อนนำไปพิจารณาควบคู่พยานหลักฐาน ก่อนส่งต่อผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
