ไม่ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวีจะมีดราม่าอย่างไร ลดราคาเท่าไหร่ สู้กันดุเดือดแค่ไหน ประกันบางค่ายมีเงื่อนไขในการรับเคลม หรือ ถูกผู้บริโภคร้องเรียน แต่สายการผลิตของทุกค่ายยังเดินหน้าเต็มเหนี่ยว
ว่ากันว่า ยอดการผลิตรถอีวี ของค่ายรถยนต์ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยปีนี้ จะผลิตรวมกัน 8-9 หมื่นคัน
จาก 23 ค่ายที่พาเหรดเข้าร่วมโครงการ EV 3.0 ของรัฐบาล รับเงินอุดหนุนคันละ 70,000-150,000 บาท ตามขนาดความจุของแบตเตอรี่
โดยก่อนหน้านี้ มีค่ายรถยนต์ที่รับเงินอุดหนุน สำหรับรถอีวีที่เข้าเงื่อนไขในรอบแรกไปแล้วประมาณ 40,000 คัน วงเงิน 7,000 ล้านบาท เหลือตกค้างอีก 3.5 หมื่นคัน ซึ่งมีวงเงินอุดหนุนอีกราว 7,000 ล้านบาท
เท่ากับว่า มาตรการ EV 3.0 จะใช้งบประมาณสำหรับจ่ายเงินอุดหนุนค่ายรถยนต์ รวมประมาณ 14,000 ล้านบาท รอบแรก กรมสรรพสามิต จ่ายไปหมดแล้ว 4 หมื่นคัน ประมาณ 7,000 ล้านบาท เหลือตกค้างอีก 3.5 หมื่นคัน ซึ่งได้ส่งเรื่องไปที่สำนักงบประมาณ เพื่อขอใช้งบกลางอีกราว 7,000 ล้านบาท
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ปัจจุบันมีค่ายรถยนต์ที่เข้ามาเซ็นสัญญา เพื่อรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการสนับสนุน EV 3.0 ของรัฐบาล (ปี 2565-2566) แล้ว 23 บริษัท ซึ่งจะได้รับการลดอัตราภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% และได้รับเงินอุดหนุนคันละ 70,000-150,000 บาท ตามขนาดความจุของแบตเตอรี่
โดยจะต้องเริ่มผลิตรถอีวี ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2567-2568 ภายใต้เงื่อนไขว่า จะต้องผลิตรถอีวี ชดเชยเท่ากับยอดที่นำเข้ามาจำหน่าย โดยหากเริ่มผลิตรถอีวีในไทยปี 67 จะต้องผลิตชดเชย 1 เท่า และหากผลิตรถอีวีในปี 68 จะต้องผลิตชดเชย 1.5 เท่า
จากการสอบถามไปยังค่ายรถยนต์ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย คาดว่าปีนี้จะผลิตรถอีวีได้ราว 8-9 หมื่นคัน โดยมีค่ายรถยนต์ที่เตรียมเข้ามาลงทุนในไทยแล้ว คิดเป็นเม็ดเงินราว 40,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมอีวีในไทย ให้กลายเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลก