นายชยุต หนองหาร อายุ 48 ปี ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พร้อมทนายความ นำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เข้ายื่นต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. หลังถูกตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จับกุมภายในที่ทำงาน หลังมีผู้ร้องทุกข์ไปกล่าวหาว่านายชยุตเรียกรับผลประโยชน์ แลกกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 4 ชั้น ในจังหวัดนนทบุรี พร้อมยึดเงินของกลาง 9 หมื่นบาท
โดยนายชยุตชี้แจงกับสื่อมวลชน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากเงินจำนวน 9 หมื่นบาทที่ผู้ร้องทุกข์นำมาส่งมอบให้กับตนเองในวันดังกล่าว ไม่ใช่เงินสินบนเพื่อให้มีการอนุญาตก่อสร้างอาคารแต่อย่างใด แต่เป็นเงินค่าจ้างสถาปนิกและวิศวกรภายนอก เพื่อให้เข้ามาช่วยคุมงานก่อสร้างอย่างจริงจัง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้ร้องทุกข์ได้นำแบบแปลนก่อสร้างอาคารที่ไม่ตรงตามหลักเกณฑ์มาขอคำปรึกษาหลายครั้ง และได้มีการแก้แบบไปถึง 2 ครั้ง เกี่ยวกับข้อมูลหมุดที่ดิน และส่วนต่อขยายบันไดหนีไฟภายนอกอาคาร ประกอบกับอาคารดังกล่าวเป็นอาคารใหญ่ สูง 4 ชั้น เมื่อผู้ร้องทุกข์มาขอคำปรึกษา ตนเองจึงให้คำแนะนำว่าควรมีวิศวกรและสถานิกจากภายนอก เป็นคนกลางในการตรวจสอบ ที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ เพราะหากการก่อสร้างมีปัญหาจะเกิดความเสียหายมูลค่าสูง
โดยตนเองได้ประเมินค่าจ้างวิศวกรและสถานิกไว้ 150,000 บาท แต่ผู้ร้องทุกข์ขอต่อเหลือ 100,000 บาท โดยวางมัดจำไว้แล้ว 10,000 บาท ได้มอบให้กับสถาปนิกไปแล้ว และนัดมอบเงินส่วนที่เหลือในวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเงิน 90,000 บาท แบ่งเป็นของวิศวกร 60,000 บาท และสถาปนิกอีก 30,000 บาท แต่เนื่องจากสถาปนิกป่วยกระทันหัน ตนเองจึงเป็นผู้รับเงินแทน
อีกทั้งในวันดังกล่าวผู้ร้องทุกข์จะต้องนำแบบแปลนส่วนขยายบันไดหนีไฟมาส่งมอบ เพื่อที่ใบอนุญาติซึ่งนายกเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทองได้อนุมัติไปตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม เหลือเพียงนำใบอนุญาตไปออกเลขให้มีผลบังคับใช้ แต่ปรากฎว่าในวันดังกล่าว ผู้ร้องทุกข์กลับพาตำรวจมาจับกุมตนเอง
และระหว่างที่ตนเองถูกดำเนินคดี และถูกต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนนำใบอนุญาตดังกล่าวไปขอออกเลข ทั้งที่ผู้ร้องทุกข์ยังไม่ได้มีการส่งแบบบันไดหนีไฟมาให้ ทำให้ขณะนี้ใบอนุญาตดังกล่าวสามารถนำไปใช้ก่อสร้างได้แล้วตามกฎหมาย
นายชยุตยังบอกอีกว่า เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเกิดจากความเข้าใจผิด ว่าเงินที่ส่งมอบ เกี่ยวข้องกับการได้ใบอนุญาต ซึ่งไม่เป็นความเป็น เป็นเพียงค่าปรึกษาจ้างวิศวกรและสถาปนิกคุมงาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยถูกต้องตามกฎกระทรวง และตนเองซึ่งเป็นผู้อำนวยการกองช่าง ก็ไม่ได้มีอำนาจออกใบอนุญาต รวมถึงตนเองไม่เอาตำแหน่งมาแลกกับเงิน 100,000 นี้แน่นอน เงินทุกบาทไม่เคยนำมาเข้าตัว และเงินเดือนข้าราชการก็เพียงพออยู่แล้ว ตนเองทำงานมานาน หากเกษียณก็มีเงินเก็บ
อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่คิดจะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หลังจากนำเอกสารชี้แจงและหลักฐานส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. แล้ว ตนเองพร้อมทนายความจะไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ร้องทุกข์รายนี้ ในข้อหาแจ้งความเท็จ และกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญาต่อไป