วันศุกร์, กันยายน 20, 2024
หน้าแรกต่างประเทศจีน‘แฮร์ริส’ ประกาศเลือก ‘ทิม วอลซ์’ ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

Related Posts

‘แฮร์ริส’ ประกาศเลือก ‘ทิม วอลซ์’ ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

(ซ้าย) กมลา แฮร์ริส (ขวา) ทิม วอลซ์

“…กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. 2024 ได้ตัดสินใจเลือก “ทิม วอลซ์” ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา วัย 60 ปี คนที่มีสายใยใกล้ชิดจีนอย่างมาก เป็นคู่หูลงแข่งชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดีในสนามเลือกตั้ง หลังจากได้มีการเฟ้นหาอย่างเร่งด่วนที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่จากรายชื่อผู้เข้าชิงของพรรคเดโมแครตกว่า 10 คน ขณะที่ ดอนัลด์ ทรัมป์ นั้น มีความคิดและท่าทีตรงข้ามกัน ทิม วอลซ์ สุดขั้ว เพราะ ทรัมป์ ต่อต้านจีนค่อนข้างรุนแรง…”

แหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการคัดเลือกเปิดเผยว่า วอลซ์ เป็นอดีตสมาชิกกองกำลังพิทักษ์ชาติ (US Army National Guard) และดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐมินนิโซตามาตั้งแต่ปี 2018 ก่อนหน้านั้นเขาเคยเป็นครูสอนหนังสือ โค้ชฟุตบอล รวมถึงเป็นนักล่าสัตว์และผู้ครอบครองปืนด้วย

วอลซ์ ยังเป็นนักการเมืองที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มชาวอเมริกันผู้มีสิทธิเลือกตั้งในชนบท ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหันไปเทคะแนนให้ โดนัลด์ ทรัมป์ และด้วยคุณสมบัติเหล่านี้เองที่ทำให้ วอลซ์ ถูกมองว่าเป็นหุ้นส่วนที่เยี่ยมยอดสำหรับ แฮร์ริส

โดนัลด์ ทรัมป์

ในขณะที่ ทิม วอลซ์ (Tim Walz) ที่ กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) เลือกให้เป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐในสนามเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนศกนี้ นับว่าเขาเป็นคนที่มีสายใยใกล้ชิดจีนอย่างมาก เขาเลือกไปฮันนิมูนที่เมืองจีน เขาใช้ชีวตเป็นครูสอนหนังสือที่เมืองจีนหนึ่งปีและเขาได้เดินทางไปประเทศจีนบ่อยมากไม่น้อยกว่า 30 ครั้ง นับว่าเขาเป็นคนอเมริกันที่มีเยื่อใย สัมพัมพันธุ์ใกล้ชิดจีนมากคนหนึ่ง

ทิม วอลซ์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า “เป็นประสบการณ์อันแสนวิเศษ ทำให้เขาเชื่อว่า ข้าพเจ้าจะไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีเช่นนั้นอีก พวกเขา (คนจีน) เป็นคนใจดี ใจกว้าง มีศักยภาพ พวกเขามีแต่ให้ ให้ และให้แก่ข้าพเจ้า ไปเมืองจีนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้ทำมา

ทิม วอลซ์

ท่าทีและความชื่นชอบนิยมจีนเช่นนี้ย่อมทำให้คู่แข่งเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาครั้งนี้นำทัศนคติและความนิยมชื่นชอบจีนของ ทิม วอลซ์ ออกมาโจมตีอย่างรุนแรง เข้มข้นแน่นอนเพราะ ดอนัลด์ ทรัมป์ นั้น มีความคิดและท่าทีตรงข้ามกัน ทิม วอลซ์ สุดขั้ว ดอนัลด์ ทรัมป์ ต่อต้านจีนค่อนข้างรุนแรง

จึงเป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า ผลของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้น่าจะสะท้อนภาพรวมในทัศนคติของคนอเมริกันที่มีต่อจีนว่าเป็นอย่างไร..?!?

สำหรับ แฮร์ริส วัย 59 ปี ได้กลายมาเป็นผู้สมัครชิงประธานาธิบดีคนใหม่ของพรรคเดโมแครต หลังจากที่ โจ ไบเดน วัย 81 ปี ตัดสินใจถอนตัวจากศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว และภายในเวลาไม่ถึงเดือนปรากฏว่าทีมหาเสียงของ แฮร์ริส สามารถระดมเงินบริจาคได้แล้วหลายร้อยล้านดอลลาร์ และสร้างความกระตือรือร้นให้กับชาวอเมริกันที่เป็นฐานเสียงดั้งเดิมของเดโมแครต ในความเคลื่อนไหวที่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในศึกชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวปีนี้

“ทิม เป็นผู้นำที่ผ่านบททดสอบมาแล้วมากมาย และได้สร้างผลงานที่น่าเชื่อถือในการช่วยเหลือครอบครัวชาวอเมริกันในรัฐมินนิโซตาในด้านต่างๆ” แฮร์ริส ระบุในข้อความที่ส่งถึงบรรดาผู้สนับสนุน ขณะที่แหล่งข่าวชี้ว่าประสบการณ์ทำงานบริหารของ วอลซ์ ก็เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นที่ทำให้ แฮร์ริส ตัดสินใจเลือกเขา

แฮร์ริส และ วอลซ์ เริ่มออกเดินสายหาเสียงคู่กันเป็นครั้งแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟียเมื่อวันอังคาร (6) โดย วอลซ์ ได้กล่าวต่อบรรดาผู้ฟังกว่า 10,000 คนที่มหาวิทยาลัย Temple University ว่า ตนได้เติบโตขึ้นมาในเมืองเล็กๆ ที่รัฐเนแบรสกา มีประสบการณ์ทำงาน 24 ปีในกองกำลังพิทักษ์ชาติ รวมถึงเคยเป็นครูสอนสังคมศึกษา และเป็นโค้ชฟุตบอล

“พวกลูกศิษย์สนับสนุนให้ผมลงสมัคร” เขากล่าว “พวกเขามองเห็นว่า ผมมีสิ่งที่ตัวผมเองพยายามอมรมบ่มเพาะพวกเขาเรื่อยมา นั่นคือเจตนารมณ์ที่จะสร้างสิ่งดีๆ สำหรับทุกคน และความเชื่อที่ว่าคนคนหนึ่งสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้”

วอลซ์ เคยมีส่วนร่วมผลักดันวาระก้าวหน้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการอาหารโรงเรียนฟรี การกำหนดเป้าหมายเพื่อต่อสู้ปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การลดหย่อนภาษีสำหรับชนชั้นกลาง และการเพิ่มวันลาให้แรงงาน เป็นต้น

ด้านทีมหาเสียงของ ทรัมป์ ก็ไม่รอช้ารีบเปิดศึกโจมตี วอลซ์ ทันควันว่าเป็นพวก “ลิเบอรัล” พอๆ กับ แฮร์ริส และยึดถือค่านิยมต่างๆ ที่ไม่เข้าถึงคนอเมริกันส่วนใหญ่

“ไม่น่าแปลกใจที่ กมลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นพวกลิเบอรัลจากซานฟรานซิสโก จะอยากได้พวกวอนนาบีจากเวสต์โคสต์อย่าง ทิม วอลซ์ มาเป็นคู่หูชิงรองประธานาธิบดี ซึ่งตลอดระยะเวลาในการเป็นผู้ว่าการรัฐ วอลซ์ ได้พยายามเปลี่ยนมินนิโซตาให้กลายเป็นเหมือนรัฐสีทอง (The Golden State)” คำแถลงของทีมหาเสียง ทรัมป์ ระบุ โดยอ้างอิงไปถึงชื่อเล่นของรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นบ้านเกิดของ แฮร์ริส

ที่มา : สำนักข่าว #รอยเตอร์ #สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts