“โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบศตวรรษ และอยู่ในยุคการเปลี่ยนแปลง ที่มีความปั่นป่วนวุ่นวาย ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ได้เดินทางมาถึงทางแยก ระหว่างสันติภาพหรือสงคราม ความร่วมมือหรือการเผชิญหน้า การพัฒนาหรือการถดถอย เรากำลังเผชิญกับคำถามที่ว่า โลกควรเดินไปทางไหน”
หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ การสนทนาระดับโลก “โอกาสของโลกจากการปฏิรูปเชิงลึกซึ้งของจีนในยุคใหม่” จัดโดย ไชนามีเดียกรุป หรือ CMG ณ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ประเทศไทย มีตัวแทนจากวงการต่างๆ เกือบ 500 คนเข้าร่วมงาน
หาน จื้อเฉียง กล่าวถึง การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ ซึ่งการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของจีน ได้ชี้ว่า ความทันสมัยแบบจีน คือความทันสมัยบนเส้นทางแห่งการพัฒนาอย่างสันติ จีนดำเนินนโยบายสันติภาพ ด้านการทูตอย่างเป็นอิสระ และส่งเสริมการสร้างประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ เนื่องจากกระบวนการพัฒนา ทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เต็มไปด้วยความพลิกผันอยู่เสมอ
ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบศตวรรษ และอยู่ในยุคการเปลี่ยนแปลง ที่มีความปั่นป่วนวุ่นวาย ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ได้เดินทางมาถึงทางแยกระหว่างสันติภาพหรือสงคราม ความร่วมมือหรือการเผชิญหน้า การพัฒนาหรือการถดถอย เรากำลังเผชิญกับคำถามที่ว่าโลกควรเดินไปทางไหน
เมื่อปี 2565 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เสนอแนวคิดที่สำคัญ ในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ ซึ่งนี่คือคำตอบของจีน ต่อคำถามของโลก และคำถามของยุคสมัย
จีนกระตือรือร้น ในการแสวงหาแนวทางแก้ปัญหาระหว่างประเทศที่สำคัญ ด้วยวิธีการที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของจีน เมื่อปีที่แล้ว จีนเป็นกาวใจ ในการเชื่อมสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน นอกจากนี้ เมื่อไม่กี่วันก่อน จีนก็ได้ผลักดันให้ 14 กลุ่มในปาเลสไตน์ ร่วมกันลงนามใน “ปฏิญญาปักกิ่ง ว่าด้วยการยุติการแบ่งแยกดินแดน และการเสริมสร้างเอกภาพแห่งชาติปาเลสไตน์” ซึ่งเป็นการช่วยแก้ปัญหาปาเลสไตน์ ผ่านวิธีการทางการเมือง ด้วยภูมิปัญญาของจีน
การพัฒนาของจีน ไม่สามารถแยกออกจากโลกได้ การพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองของโลก ก็ต้องอาศัยจีนเช่นกัน ในฐานะประเทศกำลังพัฒนา ที่ใหญ่ที่สุด จีนวางการพัฒนาของตน ไว้ในพิกัดการพัฒนาของมนุษย์ มาโดยตลอด และใช้การพัฒนาของตน สร้างโอกาสใหม่ ๆ แก่การพัฒนาของโลก
ในปี 2566 GDP ของจีนทะลุ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มีขนาดตลาดภายในประเทศอยู่ที่ 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 47 ล้านล้านหยวน โดยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของ 140 กว่าประเทศและภูมิภาค เมื่อมองไปสู่อนาคต การมุ่งสู่ความทันสมัยของประชากรจีน กว่า 1.4 พันล้านคน จะทำให้จีนมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ การพัฒนา และความก้าวหน้าของโลก มากขึ้นอย่างแน่นอน ประสบการณ์ความสำเร็จ ในการพัฒนาความทันสมัยแบบจีน จะกลายเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะ ระดับนานาชาติ ที่จีนมอบให้แก่ประเทศต่างๆทั่วโลก