จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพแพร่ระบาดในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และปัจจุบันมีการลักลอบจำหน่ายในหลากหลายช่องทาง รัฐบาลจึงสั่ง การให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ในการนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานคณะทำงางานบูรณาการเพื่อปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการเจ้าหน้าที่ของภาครัฐในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร., พล.ต.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.นิรันดร เหลือมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเร่งรัดคดียาสูบฯ และ ผู้แทน ผบ.ตร. ในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ จึงได้กำหนดมาตรการการปราบปราม โดยเฉพาะในบริเวณรอบสถานศึกษา แหล่งท่องเที่ยว สถานที่สำคัญ และการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และมอบหมายให้กองบัญขาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายโต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สืบสวนจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายช่องทางออนไลน์รายใหญ่ และโกดังเก็บสินค้า เพื่อตัดวงจรการกระจายสินค้าไปยังร้านค้ารายย่อยให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
วันที่ 19 ส.ค.67 บก.ปคบ. นำโดย นายกองตรี คร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ,พล.ต.ท.นิรันดร เหลือมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเร็ง อำพรรทอง รอง ผบก.ปคบ., พ.ด.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ไพรัช พรมวงศ์ รอง ผกก.1 บก.ปคบ., พ.ต.ทบอก มหาสวัสดิ์ รอง ผกก.1 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ำเค็ม สว.กก.1 บก.ปคบ. และเจ้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.1 บก.ปคบ. ได้แถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าช่องทางออนไลน์รายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมของกลาง 31,790 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้าน
มีรายละเอียดดังนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ได้ทำการสืบสวนหาข่าวผู้มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าตามช่องทางออนไลน์ จนพบว่า เว็บไชต์ URL : https://yaivapeth.com/ มีพฤติกรรม ประกาศขายสินค้า ประเภทบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์จำนวนหลายรายการ และมีช่องทางให้ผู้สนใจสั่งซื้อสินค้าผ่าน LINE “@YAIVAPETH ซึ่งเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบเติม เครื่องบุหรี่ ชนิดสูบแล้วทิ้ง และชนิดเปลี่ยนหัว พร้อมบริการส่งให้ลูกค้าทั่วประเทศทางบริษัทขนส่งเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว มีการเก็บสต๊อกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไว้ที่บ้านเลขที่ 413/6 หมู่ที่ 10 หมู่บ้านกัลยาวิลล์ ต.ป้าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น ต่อศาลจังหวัดเขียงใหม่ และได้เข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าวเมื่อ 15 ส.ค. 67 พบบุหรี่ไฟฟ้าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณี รวมจำนวน 30,3990 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท โดยมี นายศรัณยู(นามสมมุติ) รับว่าเป็นเจ้าของเร้านชายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว จัดจำหน่ายช่องทางออนไลน์และแพ็คสินค้าจัดส่งตามออเดอร์ เจ้าพนักงานตำรวจจึงจับกุมตัว นำส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปลบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการกระทำของนายศรัณยู (นามสมมุติ) เป็นความผิดตามกฎหมาย ดังนี้
(1) ขายสินค้าที่คณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า)อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่พ.ศ.2566 มาตรา 69/9 . 56/4 คำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/1567 ลง 8 ก.ค.67 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(2) ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าบุหรี่ไฟฟ้านอกจากเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว การจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นความผิดตามกฎหมาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนท่านใด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน 1599 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
