ข้าราชการประจำ..กับ
อำนาจ “นักการเมือง”
น้ำเหนือ….ยังทะลักท่วมรุนแรง กระจายความเสียหายใหญ่หลวง สุดมือเอื้อมความช่วย้หลือได้ถึง ทั้งระบบราชการและการเมือง
ความเสียหายมากมายครั้งนี้…ไม่ต่างกับทุกปี พี่น้องชาวบ้าน พบเห็นความบกพร่อง ที่หน่วยงาน มองข้ามไป
งบประมาณแผ่นดิน ที่ผ่านขั้นตอน จากปากนักการเมืองในสภาฯ ที่มาของบประมาณฯโยงไปยังชาวบ้าน จำนวนมากมา…
ทุ่มลงไปในหลายโครงการ…เหมือน “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ”
ฝายกั้นน้ำ อ่างเก็บน้ำ… มันก็แค่ภาพจำลอง มองเห็น แต่ใช้งานได้แค่ลวงตาชาวบ้าน ในหน้าแล้ง
ฝนกระหน่ำลงมาไม่ทันจะท่วม ก็พังทลาย เปิดช่องทางน้ำไหลลงสู่พื้นที่ทำกินชาวบ้าน เป็นภาพซ้ำเติม ที่เขาไม่อาจจะช่วยเหลือตนเองได้…ทั้งหน้าแล้งและหน้าฝน
มันคือหลักฐาน ในหลายชิ้นส่วน ที่ทิ้งร่องรอยให้พวกเรารู้…งบประมาณแผ่นดิน ที่จัดสรรแก้ปัญหาน้ำท่วม-ฝนแล้ง
สวยหรูในหน้าแล้ง…อุทกภัยฝ่านมา แค่อาทิตย์เดียว เงินที่นำมาใช้ตามโครงการหรูมันก็ถูกกระแสน้ำป่า หอบไปทิ้งกลางทุ่งนา
ที่สุด… นักการเมือง เจ้าของโครงการเอาใจชาวบ้าน…ก็มานั่งพลิกลิ้น โยนใส่กันไป-มา
ระบบเจ้าขุนมูลนาย ที่มองออก…ฝ่ายการเมือง ลงพื้นที่ยามฉุกเฉิน มีอาการหงุดหงิด ที่มองหา ไม่พบผู้ว่าฯ มาประดับบารมี
มีคำสั่งด่วน…ชี้แจงให้ทราบภายใน 3 วัน “คุณ หายหัวไปไหนมา”
ข้าราชการ ระดับู้ว่าฯ นายอำเภอ ลงไปถึง กำนัน-ปู้ใหญ่บ้าน ตัวสั่นกันทั่วหน้า ต้องมาเดินตามก้นนาย นักการเมือง
กับการใช้เวลาฉุกละหุก ลงพื้นที่ ชาวยเหลือชาวบ้านโดยตรง เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบเร่งด่วน
นายเขาไม่พอใจ…ไม่มาคอยกุมเป้ากางเกง คอนรายงานตัว ให้คล้องจองกับนโยบายพรรคฯ
มันคือ…ความล้มเหลวในทุกบริบทอำนาจบริหาร จัดการช่วยเหลือชาวบ้านเฉพาะหน้า
นักการเมือง ยังครอบงำอำนาจ กดหัวฝ่ายราชการ เช่นที่เห็น..
ฝ่ายราชการ ก็ยังเคลือบเคลื้อม การเป็น เจ้าคนนายคน คุ้นเคยระบบและระเบียบราชการ ที่เลือกปฏิบัติได้กับ…ชาวบ้านทั่วไป
การปกครองบ้านเมือง…ที่นักการเมืองผู้มีอำนาจ มาจากการเลือกตั้ง อ้างว่าเป็นผู้ “รับใช้ประชาชน”
ข้าราชการ ใช้เครื่องแบบ เจ้าขุนมูลนาย ลื่นไหลไปตามอำนาจนั้นๆ…มาเหยียบย่ำไปมาบนหัวชาวบ้านได้ตลอด
แค่ยอมก้มหัวให้นักการเมืองขี่คอ รับคำสั่งทุกครั้ง เมื่อนายใช้งาน
คอยประดับบารมีรัฐมนตรีฯ เท่านั้นหรือ??
