ความจริง…ในท้องนา
ชาวบ้านเดือดร้อน…เพราะใคร??
คนไทยคุ้นเคยกับ…อุทกภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นกับพวกเขา ชาวบ้าน-ชาวเมือง
เป็นปรากฏการณ์ ซ้ำซ้อน กับปัญหาเดิมๆ
จุดล่มจมที่ตามมา ไปรวมเป็นปัญหาชาติ และประชาชน ที่ทุกรัฐบาลและหน่วยงานรับผิดชอบของข้าราชการประจำ
ต่างทำหน้าที่เข้มข้น ต่อเมื่อความเป็นความตาย ที่ชาวบ้านเผชิญขั้นหนักไปแล้ว…ทุกครั้ง!!
ปัญหาที่มองเห็น…ซ้ำซาก!!
ที่มาของน้ำ…มาจากฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก จากป่าเขาลำเนาไพร…ทางภาคเหนือ สู่ที่ต่ำด้วยความรุนแรง
แนวกั้นน้ำธรรมชาติ…ทางน้ำหลากอย่างรุนแรง เราได้ต้นไม้ป่ารองรับ กับทางเดินของน้ำ ต้นน้ำลำธาร คูคลอง หนองบึง ธรรมชาติ
ไหลลงเขื่อนและบึงขนาดใหญ่ ที่เป็น “แก้มลิง” ธรรมชาติ รองรับไว้ ไม่ให้ทะลักทำลายบ้านเรือนชาวบ้าน…
ความรุนแรงก็เบาบางลงระดับหนึ่ง…ไม่ถึงกับถูกน้ำหอบพัดพาไปทั้งหมู่บ้าน ในหลายๆตำบล ชั่วพริบตา อย่างที่เห็น
เหตุเพราะน้ำที่ไหลรุนแรง ไหลตรงลงบ้านเรือน ที่ขวางกั้นน้ำเอาไว้…ส่วนหนึ่ง
กับอีกหลายส่วนประกอบ ใน “ภัย” พิบัติรุนแรง ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ต้นน้ำ มาถึงปลายน้ำ
ชี้ขัดได้เลยว่า…ปัญหาหญ้าปากคอกเหล่านี้ ทั้งภาคการเมือง และ หน่วยงานราชการ ที่ร่วมกันดูแล ตามระบบราชการ…
เหมือนคนเลี้ยงควาย ใช่จะรอกินขี้ควาย
การเมือง…พอเกิดเหตุขึ้นมา ก็รีบยกคณะ เดินทางไป ลุยน้ำ แจกของ ผัดข้าวให้ชาวบ้านกิน
ก็ได้แรงหนุนจากกองเชียร์สีเดียวกัน…ไปยืนปรบมือชื่นชม
“นายกฯสู้ๆ”…บ้าบอคอแตก ในความเป็นความตายที่ชาวบ้านเดือดร้อน กับปัญหาเดิมๆ
กำนันหญิงคนหนึ่ง…ตะโกนบอกรัฐมนตรี ที่นั่งเรือแจกของผ่านมา
“ชาวบ้านจมน้ำเพราะ กรมชลฯเปิดประตูกั้นน้ำ ปล่อยลงสู่ไร่นา เดือดร้อนไปทั่ว…”
รัฐมนตรีฯคนดัง ตอบสวนไปทันที…”ไม่ใช่ ไม่จริง ไม่มีใครไปคิดร้ายกับพวกคุณหรอก เขาทำหน้าที่เต็มที่กันทุกคน”
กำนันท่านนั้น…ก้มหน้าดูมวลน้ำ ที่ไหลบ่าสู่ท้องนา รวงข้าวพร้อมเก็บเกี่ยว ของชาวบ้านกำลังจะจมน้ำ ต่อหน้าต่อตา…จะมีนักการเมือง คนไหนหันมาช่วยได้
เวรกรรมสิ้นดี…ที่มีแต่เจ้านายพวก ปากว้าง พุงกาง เห็นชาวบ้านแค่คนเลี้ยงควาย ไร้ค่า พูดจาไม่เข้าหูเขา
ที่แท้…นักการเมืองพวกนนี้ ก็แค่ควาย นายทุนเลี้ยงไว้ ใช้งาน
