“ไม้แก่ดัดยาก” อยู่ต่อ
หรือเดินตามรอยตีนเด็ก
คนรุ่นเก่าๆ…เขายังจำคำคม-ข้อคิด เตือนสติไว้….กับอาชีพไม่น่าคบในยุคนั้น มี “รถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ” ใครมีลูกสาว อย่าไปเอามาเป็นผัวเด็ดขาด!!
ปัจจุบัน…ลบทิ้งไปหมด แล้วบรรจุคำว่า สังคมทุกวันนี้ “มีทั้งคนดีและคนไม่ดี” คุณมีสิทธิ์เลือกได้
แต่ก็แอบไปใส่อาชีพ นักการเมือง “คบไม่ได้” ลงไว้ในหนังควาย ตามมา
ก็มีคนแย้งโต้…คนไม่ดีมีน้อยกว่า นักการเมืองชั่ว!!
ก็ว่ากันไป…สุดแท้แต่ใครจะไปชี้ผิดชี้ถูกในแต่ละความรู้สึก เป็นความคิดแตกต่างกันได้
มาถึงยุคนี้…คนก็เน้นความคิดเห็น ตรงไปยังสังคมการเมือง ที่มีร่องรอยติดตัวกันมา ถ้าพิจารณาอย่างรอบคอบ ก็เห็นได้ชัด
แล้วเลือก…คนดีมาปกครองบ้านเมือง หยุดมองถึงคำเปรียบเปรยมาเป็นคนตัวชี้วัดอีก
เช่น…”ไม้แก่ดัดยาก” คนหนุ่มคนสาวรุ่นใหม่ เขาข้ามพ้นไปแล้ว มีเหตุผลใด ที่จะลามปามไปหมิ่นผู้สูงวัย มีประสพการเหล่านั้น
ก็ลองมองดู…เราเคยอยู่ในคนกลุ่มไหนมาก่อน
นักการเมืองส่วนใหญ่…ไม่ว่าจะเป็นพวก รุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ เกาะจูงมือตามกันมา บนความล้มเหลว ในอาชีพ “ตัวแทนประชาชนที่แท้จริง…เพราะเหตุใดหรือ??
นักการเมือง เครือข่ายคนรุ่นใหม่…นิยมในความคิดผิดๆ “ทำชั่วได้ดีมีถมไป” ลองเปลี่ยนสันดานดูบ้าง ผิดตรงไหน??
รสนิยมของคนแต่ละยุค…เขาจะยืนบนความเป็นจริง ที่เรียนรู้ตามกันมาด้วยตนเอง
หรือ…พ่อ-แม่ สั่งสอนกันมา
หรือ..คือสันดานคน มันเกาะติดตัวแต่เกิด
บ่นให้ฟัง…เหตุเพราะเห็น พวกนักการเมืองวันนี้ “ปากอย่าง-ใจอย่าง” บางคนหลุดปาก บอกให้พวกเรารู้ชัดเจน
“การเมืองคือการลงทุนทำธุรกิจ”
จำเป็นต้องเข้าไปมีหุ้นส่วน…กับนายทุนระบบทักษิณ “ตามองฟ้าตีนติดโคลน” ก็ยังเป็นความหวัง ได้ทุนคืน
ยังดีกว่า…พวก “ไม้บรรทัดเหล็ก” ใกล้ผุกร่อนตามกาลเวลา
ด้วยเหตุผลที่เขามองหาจุดยืนได้ชัดกว่า…จึงหันหลังให้ฝ่ายค้าน มาอยู่ฝ่ายรัฐบาล ที่ นักการเมืองรุ่นใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ ถึงทิ้งอุดมการณ์เดิมๆ ที่ “ไม้แก่” เป็นแบบอย่างไว้
มาเป็นบริวารของรัฐบาล…โดยไม่เคอะเขิน หรือจะมีใครด่าว่าร้าย ก็ไปแยแส
เห็นใจ “ไม้แก่ดัดยาก” กลุ่มสุดท้าย รุ่น “ชวน หลีกภัย” อยากจะให้กำลังใจท่าน…พร้อมความรู้สึก
“ทำไมต้องทนอยู่กับนักการเมืองนายทุนพวกทรยศอีก”
รีบ “ลาออก” ไปเถอะ ดีกว่าอยู่เป็นไม้บรรทัดเหล็ก ให้เด็กมันเดินเหยียบย่ำทำไม??