“ชอบเหยื่อขัดขืน” เหยื่อโผล่ไม่หยุด! นักแสดงสาวก็โดน ทนายตั้มเผยมีหลักฐานหมัดเด็ด ทั้งกล้องวงจรปิด และมีประจักษ์พยานหลายคนกลัวเหยื่อจะถึงร้อยคน
เมื่อวันที่ 15 เม.ย.65 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เผยถึงความคืบหน้าคดีการแจ้งความเอาผิดรองหัวหน้าพรรคการเมืองชื่อดัง หลังมีหญิงสาวออกมาแจ้งความ ถูกลวนลาม คุกคามทางเพศ ต่อมามีหญิงสาวอีกหลายคนเข้าให้ข้อมูล และร่วมแจ้งความว่าถูกคุกคามทางเพศและถูกข่มขืนด้วยนั้น
นายษิทรา เปิดเผยว่า ล่าสุดมีบุคคลมีชื่อเสียงถูกกระทำอีก ทุกคนรู้จักเป็นนักแสดง แต่ขอคุยกับครอบครัวก่อนว่าจะไฟเขียวให้ไปแจ้งความหรือไม่ โดยพ่อก็เป็นคนมีชื่อเสียง หลังจากออกจากโรงพักช่วงค่ำ มีคนทักมาไม่หยุด มีเคสใหม่ๆ มาตลอด หลายคนพร้อมให้ข้อมูลเพิ่ม หลายคนไม่พร้อม จนตอนนี้เริ่มสับสน ล่าสุดที่ให้ข้อมูลเพิ่มมาอีก 5 คน และจะต้องมีการคุยเพิ่มเติม เช่น คดียังอยู่ในอายุความไหม พร้อมแจ้งความไหม
“ตอนนี้ไม่มีผู้ใหญ่หรือใครโทรมาคุย เชื่อว่าตอนนี้เรื่องไปไกลเกินกว่าที่โทรมาเคลียร์แล้ว โดยเฉพาะสามรายที่แจ้งความไป เคสน้องนักศึกษาอายุ 18 ปี หลักฐานแน่นมาก เพราะมีหลักฐานด้วยตัวเอง ทั้งกล้องวงจรปิด และมีประจักษ์พยานหลายคน”
“ตามสถานการณ์ ผู้เสียหายออกมาเรื่อยๆ ก็กลัวจะถึงร้อยคน คือว่ารองหัวหน้าพรรคคนดังกล่าวคงจะอยู่ประเทศไทยลำบาก” นายษิทรากล่าว
ทนายตั้มตามคดีรองหัวหน้าพรรค ลูกคนในพรรคก็โดนด้วย แฉแอบโทร.เคลียร์เหยื่อ
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เข้าพบตำรวจ สน.ลุมพินี เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีมีนักศึกษาสาววัย 18 ปี แจ้งว่าถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง ลวนลามกอดจูบ หลังหลอกมาคุยเรื่องงานและสอนหุ้น ที่ร้านอาหารชั้นดาดฟ้าในซอยสุขุมวิท 11
นายษิทรา กล่าวว่า กรณีคดีเกิดเมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย.แล้วผู้เสียหายมาแจ้งความวันที่ 12 เม.ย.และทราบว่าวานนี้ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดในร้านมาแล้ว นอกจากนี้ก็ได้คุยกับเหยื่อเพิ่มเติมจนทราบข้อเท็จจริงบางอย่าง ซึ่งทราบว่าแม่ของเหยื่อก็ชอบพรรคการเมืองนี้ด้วย เพราะเป็นคนพูดจาดี แต่พอเกิดเรื่องก็เสียความรู้สึกจนต้องมาพบตน ยิ่งพอมีข่าวออกไป ก็มีเหยื่ออีก 3 คนติดต่อเข้ามา ซึ่งมีอายุประมาณ 18 ปีทั้งหมด รายหนึ่งอยู่ที่ จ.ราชบุรี ซึ่งมีแม่ทำงานในพรรคเดียวกัน อีกรายถูกข่มขืนจนต้องหนีไปประเทศอังกฤษ อีกรายโดนลวนลาม ซึ่งเหยื่อบางรายถูกพาขึ้นคอนโดส่วนตัวด้วย ทั้งนี้ตนก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง เพราะตลอดเวลาที่เหยื่อพูดก็แสดงอาการร้องไห้ตลอดเวลา แม้จะขัดขืน พยายามหลบหลีก แต่นักการเมืองคนนี้ก็ยังจะทำ แม้คนในร้านจะเยอะแต่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเหยื่อทั้งอายและกลัวจึงไม่กล้าขอความช่วยเหลือ
นายษิทรา กล่าวอีกว่า หากรองหัวหน้าพรรคคนนี้ไม่กลัวความผิด วานนี้จะพยายามโทรไปขอโทษผู้เสียหายและแม่เขาทำไม ก็อยากให้ออกมาปฏิเสธ เพราะจะนำแชทขอบคุณของแม่เขาก่อนที่จะทราบเรื่องมาแสดง
นอกจากนี้ เชื่อว่ามีเหยื่อรวมแล้วเกิน 10 คน ในนี้ถูกข่มขืนไม่ต่ำกว่า 5-6 คน โดยมีพฤติกรรมในลักษณะนี้มาตั้งแต่ปี 2556 และล่าสุดเป็นเมื่อปีก่อน ทำให้ต้องหนีไปต่างประเทศ หรือเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งทราบว่าสถานที่ในการก่อเหตุนั้น จะใช้ร้านอาหารแห่งนี้นัดพบหลายครั้ง โดยคนก่อเหตุมักจะข่มขู่เหยื่อ อ้างว่าพ่อกูเป็นใคร และมีรสนิยมชอบเหยื่อที่มีอาการขัดขืน ทั้งนี้ ขอให้เหยื่อรายอื่นๆ หากถูกกระทำในลักษณะนี้ให้มาแจ้งความเอาผิด เพราะโทษของคดีนี้มาอายุความถึง 20 ปี ส่วนตัวไม่กลัวจะถูกฟ้อง เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
ด้าน พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านโทรศัพท์ว่า ได้สอบปากคำผู้เสียหายหลังรับแจ้งความเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมาไปแล้ว ส่วนรายละเอียดความคืบหน้าของคดีนั้น รายละเอียดยังคงอยู่ในสำนวน ไม่สามารถเปิดเผยได้
